เมื่อเวลาประมาณ 11:40 น. ภายในซอยลาดพร้าว 109 ซึ่งเป็นบ้านพักของนายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มนักศึกษาในนาม “กลุ่มคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม” จำนวน 18 คน เดินทางมาชูป้ายประท้วงพร้อมกับอ่านแถลงการณ์คัดค้านและประณามการกระทำของนายเอกชัย หงส์กังวาน ต่อกรณีที่หยิบยกประเด็นเจ้าหน้าที่หน่วยซีลและเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง โดยมุ่งหวังเชื่อมโยงทางการเมือง และทำลายกำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยไม่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดีทางมนุษยธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างกลุ่มคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคมยืนอ่านแถลงการณ์โดยใช้โทรโข่ง นายเอกชัยได้ยืนรับฟังหน้าประตูพร้อมกับใช้คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊กถ่ายทอดสดไลฟ์เฟซบุ๊กไปด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าวคอยสังเกตการณ์
หลังจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ฯ อ่านแถลงการณ์จบ นายเอกชัยได้กล่าวชี้เเจงในประเด็นของตนที่ไม่เห็นด้วยต่อกรณีที่มีการรับบริจาคสิ่งของในช่วงวันแรกๆ ของปฏิบัติการกู้ภัย โดยระบุว่ากองทัพมีงบประมาณในการซื้ออาวุธแต่ไม่มีงบสำหรับซื้อถ่านไฟฉาย ทำให้หนึ่งในผู้อ่านแถลงการณ์โต้เถียงกลับมาว่าอย่าโยงเข้าประเด็นการเมือง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปรามให้หยุดการตอบโต้ ทางกลุ่มคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคมจึงยุติกิจกรรมและเดินออกจากหน้าบ้านนายเอกชัย
นายวรวุฒิ เพชรทอง แกนนำกลุ่มคนรุ่นใหม่ใส่ใจสังคม กล่าวว่า ตนได้บอกชักชวนเพื่อนกันทางเฟซบุ๊กให้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ เนื่องจากทนไม่ไหวกับพฤติกรรมในประเด็นนี้ของนายเอกชัย ที่ผ่านมาทางกลุ่มฯเคยเคลื่อนไหวในมหาวิทยาลัย ในประเด็นทางสังคม ความไม่เป็นธรรมต่างๆ มาก่อน
เหตุการณ์ในวันนี้ นายเอกชัย ระบุว่าตนทราบตั้งแต่ประมาณ 9 น. จากนักข่าวที่รู้จักกัน ว่าจะมีกลุ่มนักศึกษามาชูป้ายประท้วงที่หน้าบ้าน จึงได้ติดป้ายกระดาษที่หน้าประตูระบุข้อความอาทิ “มีปัญญาซื้อเรือดำน้ำ แต่ไม่มีปัญญาซื้อถ่านไฟฉาย” “เด็กหลงถ้ำทำให้รู้ว่าการกู้ภัยไม่ง่ายเหมือนการรัฐประหาร” และ “การกู้ภัยเป็นเวทีมืออาชีพ ไม่ใช่การกุศล” และรู้ตัวดีว่ามีคนจำนวนมากไม่พอใจตนเองอยู่เเล้ว อีกทั้งเมื่อวันก่อน ตนได้ไปยื่นหนังสือถึงทำเนียบรัฐบาลเสนอให้ตั้ง "หน่วยกู้ภัยแห่งชาติ" ช่วยผู้ประสบภัยพิบัติ
อย่างไรก็ตาม นายเอกชัยมองว่า การกระทำของกลุ่มนักศึกษาฯ วันนี้ตนไม่กังวล ไม่ใช่การมาคุกคาม เขามีสิทธิแสดงความคิดเห็น สิ่งที่ทางกลุ่มฯระบุว่า ตนพยายามลากเรื่องทหารช่วยกู้ภัยถ้ำหลวงเข้าประเด็นการเมือง ก็ไม่เชิง เพราะมองว่าทุกอย่างเป็นการเมือง ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการเอาทหารนำ จึงเป็นการเมือง ที่ทหารจะได้เป็นฮีโร่กู้ภัย ปกป้องประชาชน เท่ากับเล่นการเมือง ตนจึงมีอารมณ์ขึ้น เนื่องจากในช่วงวันแรกๆ มีการขอรับบริจาคสิ่งของซึ่งแสดงความไม่มืออาชีพในการทำงาน