ไม่พบผลการค้นหา
สื่อนอกเผย อดีตนายแบบ เจ้าของตำแหน่ง 'หนุ่มคลีโอ' ของมาเลเซียเมื่อปี 2553 เสียชีวิตจากการเข้าร่วมกลุ่มติดอาวุธไอเอสในซีเรีย

แชนแนลนิวส์เอเชียรายงานว่า อามีรุดดิน ฮัด ราชิด มิลสัน หรือ 'อาเมียร์ มิลสัน' เจ้าของตำแหน่งชายโสดในฝันของนิตยสาร 'คลีโอ' หรือ 'หนุ่มคลีโอ' จากการโหวตของผู้อ่านในมาเลเซียเมื่อปี 2553 เสียชีวิตเมื่อปี 2559 หลังจากที่เขาเข้าร่วมเป็นนักรบของกลุ่มติดอาวุธไอเอสในประเทศซีเรีย แต่ข่าวเพิ่งถูกรายงานเมื่อวันที่ 19 พ.ย. เพราะหน่วยงานด้านความมั่นคงของออสเตรเลียยืนยันข้อมูลดังกล่าวอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานมานี้

อาเมียร์ มิลสัน เป็นลูกครึ่งมาเลเซีย-ออสเตรเลีย เกิดและโตที่เมืองเพิร์ธ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย โดยมารดาเป็นชาวมาเลเซีย บิดาเป็นชาวออสเตรเลีย จบการศึกษาด้านสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย แต่เมื่ออายุ 27 ปี อาเมียร์ได้เดินทางไปใช้ชีวิตที่มาเลเซียและทำงานเป็นนายแบบ จนกระทั่งได้รับเลือกเป็นหนุ่มโสดในฝันของนิตยสารคลีโอ ทั้งยังให้สัมภาษณ์ว่าต้องการจะทำงานเป็นผู้ประกาศในรายการโทรทัศน์

อย่างไรก็ตาม แชนแนลนิวส์เอเชียรายงานว่า อาเมียร์แต่งงานเมื่อปี 2557 และมีบุตรกับภรรยา 1 คน ก่อนที่จะแยกทางกันในปี 2558 หลังจากนั้นเขาได้เข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธไอเอสในซีเรีย จนกระทั่งเหยียบกับระเบิดเสียชีวิตเมื่อปี 2559 ทำให้เขาเป็นหนึ่งในพลเมืองออสเตรเลียที่ไปเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายและเสียชีวิตในตะวันออกกลางช่วงหลายปีที่ผ่านมา 

http://2.bp.blogspot.com/-Z0KjO4MrbWY/UC5aMpc-jxI/AAAAAAAAEyE/-hTHJ49FzW0/s320/06061003.jpg

สื่ออื่นๆ รายงานด้วยว่า การผันตัวจากนายแบบลูกครึ่งไปเข้าร่วมกลุ่มติดอาวุธไอเอสของอาเมียร์เป็นเรื่องที่น่าศึกษา เพื่อจะนำไปสู่การป้องกันและควบคุมข้อมูลข่าวสารที่ปลุกระดมให้คนใช้ความรุนแรงโดยแอบอ้างอุดมการณ์ศาสนา โดยเฉพาะกรณีของไอเอส มีการหาสมาชิกและเผยแพร่แนวคิดด้านการต่อสู้ด้วยความรุนแรงผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของออสเตรเลียซึ่งเข้าร่วมการประชุมด้านความมั่นคงที่สิงคโปร์เมื่อเดือน มิ.ย. ระบุว่า กลุ่มก่อการร้ายทั่วโลกมีการปรับตัวเข้ากับโลกสมัยใหม่ เช่น กลุ่มไอเอสและกองกำลังติดอาวุธในเอเชียที่ประกาศตัวสวามิภักดิ์กับกลุ่มไอเอส ทำให้รัฐบาลต่างๆ จำเป็นต้องปรับตัวและหาแนวทางที่ยืดหยุ่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ และจะต้องคำนึงถึงยุทธวิธีเชิงรุกในโลกออนไลน์ เพราะถือเป็นสมรภูมิสำคัญในการเผยแพร่แนวคิดสุดโต่งของกลุ่มก่อการร้ายยุคปัจจุบัน

ที่มา: Channel News Asia/ SG.Yahoo

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: