นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมด้วย เมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เดินทางถึงโรงพยาบาล โบวาร์ด เฮล์ท นอร์ท ในเมืองพาร์คแลนด์ มลรัฐฟลอริดา เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์กราดยิงภายในโรงเรียนมัธยมสโตนแมน ดั๊กลาส ที่อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล จนมีผู้เสียชีวิต 17 ราย ซึ่งการเดินทางของทรัมป์ในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและไม่มีการแจ้งสื่อมวลชนล่วงหน้า โดยเมื่อถึงโรงพยาบาลแล้ว ทั้งคู่ได้กล่าวขอบคุณทีมแพทย์และพยาบาลที่ให้การช่วยเหลือรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดจนมีอาการปลอดภัย
หลังจากนั้นแล้ว โดนัลด์ และ เมลาเนีย ทรัมป์ ยังได้เดินทางไปเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองพาร์คแลนด์เพื่อกล่าวชมเชยความกล้าหาญที่ช่วยอพยพนักเรียนหลายพันคนให้ออกมาจากโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย ทรัมป์ยังได้กล่าวชมเชยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่สามารถเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บหลังจากถูกยิงมาถึงโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที
ขณะที่หน่วยสอบสวนกลางของสหรัฐฯหรือเอฟบีไอก็กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่ไม่สามารถยับยั้งเหตุกราดยิงครั้งนี้ได้ ทั้งที่เคยมีพลเมืองดีแจ้งข้อมูลไปยังเอฟบีไอแล้วว่า นายนิโคลัส ครูซ ผู้ก่อเหตุวัย 19 ปี เคยโพสต์ข้อความลงในยูทูปว่าจะก่อเหตุกราดยิงภายในโรงเรียน ซึ่งเอฟบีไอสามารถที่จะประสานงานกับตำรวจในฟลอริดาเพื่อให้ติดตามพฤติกรรมของนายครูซ ซึ่งอาจป้องกันไม่ให้เกิดเหตุกราดยิงครั้งนี้ได้ แต่เอฟบีไอกลับเพิกเฉย
นับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2013 ก็เกิดเหตุกราดยิงในโรงเรียนทั่วสหรัฐฯอย่างน้อย 291 ครั้งแล้ว โดยเฉลี่ยแล้วเกิดขึ้นสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง เหตุกราดยิงครั้งล่าสุดในเมืองพาร์คแลนด์ นับว่ามีความรุนแรงที่สุดในรอบ 6 ปีของสหรัฐฯ ซึ่งก็จุดกระแสเรียกร้องให้มีการควบคุมการซื้อขายและครอบครองอาวุธปืนให้เข้มงวดอีกครั้ง แต่ว่านายทรัมป์ยังคงไม่แสดงความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธปืน โดยบอกเพียงแค่ว่าเขาจะเอาจริงกับเรื่องการรักษาความปลอดภัยในโรงเรียน และดูแลสุขภาพจิตของนักเรียนให้ดีขึ้น
ภาพ: AP