พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เตรียมยื่นร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ศาลรัฐธรรมนูญตี ว่า ตนยืนยันว่าการเลือกตั้งยังเป็นไปตามกรอบเดือน ก.พ.2562 และขอย้ำว่าไม่มีการเลื่อนเลือกตั้งแน่นอน ทั้งนี้ ต้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความกฎหมายทั้งสองฉบับให้เร็วๆ
เมื่อถามว่า ความตั้งใจของรัฐบาลจะให้เลือกตั้งเดือน ก.พ.2562 แต่เมื่อเกิดเงื่อนไขทางกฎหมาย ดูเหมือนทำให้ยากที่จะให้เป็นไปตามโรดแมป พล.อ.ประวิตร ระบุเสียงดังว่า "ก็บอกว่าไม่เลื่อนไงเล่า" เมื่อถามย้ำว่า แต่ สนช. จะส่งให้ สนช.ตีความกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า จะส่งก็ส่ง ก็ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเร็วก็จบ
ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. ในการดำเนินการกิจกรรมทางการเมือง พล.อ.ประวิตร บอกว่า ต้องให้พรรคการเมืองใหม่ตั้งพรรคให้เรียบร้อยก่อน แล้วให้ไปพร้อมกันในเดือน มิ.ย.นี้
เมื่อถามอีกว่า การปลดล็อคให้พรรคการเมืองต้องมีเงื่อนไข เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “คิดว่าไม่เห็นมีอะไรที่พรรคการเมืองขัดแย้งกัน ก็มีแต่สื่อนี่แหละที่ขัดแย้ง” เมื่อถามต่อว่า พรรคการเมืองและ กกต.ขอให้คสช.แก้ไข คำสั่งคสช.ที่53/2560 ที่เกี่ยวกับการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรค พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่าไม่มีการแก้ไขคำสั่งกล่าว หากจะให้แก้ขอให้กกต.ทำเรื่องมา
สนช. ปัดกลับลำตีความกฎหมาย ส.ส.
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. คนที่ 1 ระบุว่า ไม่ทราบละเอียดสมาชิก สนช. ได้เข้าชื่อ 25 คนเพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องดีที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะหากยังมีข้อกังวลว่าจะเกิดปัญหาในอนาคต ต้องยอมเสียเวลาในส่วนนี้เพื่อให้ตกผลึกในทุกประเด็น แม้ส่วนตัวจะเห็นว่าทั้ง 2 ประเด็นในร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือศาลรัฐธรรมนูญเร่งรัดพิจารณาเป็นกรณีพิเศษอาจจะไม่มีผลกระทบต่อโรดแมปเลือกตั้ง
นายสุรชัย กล่าวด้วยว่า การส่งร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ สนช.กลับลำ แต่เป็นเรื่องของสมาชิกกลุ่มหนึ่งที่ใช้สิทธิเข้าชื่อ เนื่องจากเห็นว่าจะช่วยแก้ปมปัญหาได้ ดีกว่าเกิดปัญหาในอนาคต เพราะไม่รู้ว่าใครจะหยิบมาเป็นข้อโต้แย้งหากไม่ประสบความสำเร็จหลังการเลือกตั้งหรือไม่
ด้าน นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิก สนช. ระบุว่า ล่าสุดตนและสมาชิก สนช.รวม 27 คน ได้ยื่นหนังสือถึง นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เพื่อขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ใน 2 ประเด็น คือ การตัดสิทธิผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยไม่แจ้งเหตุดำรงตำแหน่งข้าราชการฝ่ายการเมือง และการลงคะแนนแทนผู้พิการ ทุพพลภาพ และคนชรา ว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ หลังจากที่รวบรวมรายชื่อจนครบจำนวนที่รัฐธรรมนูญกำหนด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทั้งนี้ ไม่ทราบว่า จะส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญวันไหน เพราะต้องรอผู้ใหญ่อีกที แต่หากจะส่งต้องอยู่ในกรอบเวลาที่ไม่เกินวันที่ 12 เม.ย.นี้ โดยเชื่อว่า การยื่นตีความครั้งนี้ จะไม่กระทบโรดแมปเลือกตั้งอย่างแน่นอน
'พรเพชร' ยื้อส่งร่างกฎหมาย ส.ส. ให้ศาล รธน. รอนายกฯตัดสินใจ
ขณะที่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ชี้แจงว่า สนช. ได้นำส่งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ไปยังนายกรัฐมนตรีแล้ว ดังนั้นอำนาจในการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความจึงเป็นของนายกรัฐมนตรีตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญมาตรา 148(2) แต่เนื่องจากนายกรัฐมนตรีไม่มีหน้าที่แบบบุรุษไปรษณีย์ที่จะต้องส่งคำร้องของสมาชิก สนช. ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ประธาน สนช. จึงต้องส่งคำร้องของสมาชิก สนช. ไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบ หากนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับความเห็นของสมาชิก สนช. นายกรัฐมนตรีก็มีดุลพินิจที่จะใช้อำนาจส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ด้วยตัวเอง
หากนายกรัฐมนตรีไม่ใช้อำนาจในการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความด้วยตัวเองนายกรัฐมนตรีต้องแจ้งกลับมายัง สนช. และประธาน สนช. จะส่งคำร้องของสมาชิกไปยังศาลรัฐธรรมนูญแทน แต่หากนายกรัฐมนตรีไม่ตอบกลับมาภายในวันที่ 12 เม.ย.นี้ ตนก็จะไม่ส่งคำร้องของสมาชิก สนช. ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ นายพรเพชร เผยว่า หากนำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ยื่นศาลตีความ มี 2 วิธีที่จะร่นระยะเวลา เพื่อมิให้กระทบกับโรดแมปเลือกตั้ง ทางแรกคือ หมายเหตุขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยโดยเร็ว ทางที่สองคือ รัฐบาลอาจคุยกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้ลดเวลาจัดการเลือกตั้งลงจาก 150 วัน ซึ่งอาจเหลือ 90 หรือ 120 วัน อย่างไรก็ตามนายพรเพชร ยืนยันว่าถ้าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าสองประเด็นนั้นในร่างขัดต่อรัฐธรรมนูญ จะไม่เป็นผลทำให้ตกไปทั้งฉบับ อย่างมากแค่ตัดประเด็นดังกล่าวทิ้ง ไม่มีอะไรน่ากังวล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง