นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยได้ศึกษาข้อมูลและข้อเท็จจริง มีความมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ถูกยุบ แต่ก็มีคนจำนวนมากที่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะถูกยุบ อย่างไรก็ตาม หากพรรคเพื่อไทยถูกยุบก่อนการเลือกตั้งก็มีที่ไป หากมีการยุบระหว่างเลือกตั้ง ตนจะชักชวนกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคประกาศให้ประชาชนสนับสนุนพรรคการเมืองที่อยู่ปีกประชาธิปไตย
ทว่าหากมองย้อนกลับไป วัตถุประสงค์ของการรัฐประหารครั้งนี้คือต้องไม่เสียของ แต่สิ่งที่น่ากังวลตอนนี้คือการที่จะทำให้พรรคการเมืองทั้งหมดในการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีความหมาย ให้ประชาชาชนมากำหนดอนาคตผ่านพรรคการเมืองต่อไป เพราะพรรคการเมืองไม่สามารถสื่อสารกับประชาชนได้
ดังนั้น สิ่งที่ คสช.กลัวที่สุดคือกระบวนการที่ประชาชนสามารถกำหนดนโยบายบริหารประเทศผ่านพรรคการเมือง ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นแบบได้ข้อมูลทางเดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ดีอย่างไร คล้ายคลึงกับการทำประชามติ ด้วยการอ้างกฎหมายความไม่สงบเรียบร้อย ส่วนการเลือกตั้งทำให้เป็นต้นเหตุของความขัดแย้งรุนแรง และกลายเป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจของ คสช.
"อย่าให้มันเป็นการเลือกตั้งที่ประชาชนไม่มีข้อมูล ขณะที่พรรคการเมืองและประชาชนไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าไม่ยอม คือการร่วมกันคิดผนึกกำลัง เรียกร้องให้การเลือกตั้งครั้งนี้เสรีและเป็นธรรมมีความหมายเช่นเดียวกับอารยประเทศ" นายจาตุรนต์ กล่าว
'อนาคตใหม่' เตือนสติ 'องค์กรอิสระ' ปฏิบัติอย่าเลือกข้าง
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่าอุปสรรคของการเลือกตั้งคือ กฎหมายพรรคการเมืองที่ใช้ระบบอนุญาต และวางกติกาที่เป็นอุปสรรคให้เกิดขึ้นของพรรคการเมืองใหม่ ตั้งยาก ยุบง่าย หรือเรียกอีกอย่างว่ากฎหมายตำรวจพรรคการเมือง ส่วน กกต. มีวิธีคิดติดกับระบบราชการ ที่มีขั้นตอนยุ่งยากและความกล้าหาญในการทำงานลดน้อยถอยลง เพราะเจอ คสช. ก็ไม่กล้าทำอะไร
ส่วนตัว คสช. เองเข้ามายึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญ ตั้งตัวเองเป็นรัฐฎาธิปัตย์ ซึ่งเป็นการรัฐประหารที่ยาวนานมาก เพราะมีการใช้กลไกในการเลื่อนเลือกตั้งออกไป ขณะที่ ส.ว. สรรหา ยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงการตั้งพรรคการเมือง ถือเป็นกลไกสำคัญในการสืบทอดอำนาจ ถือเป็นความชัดเจนเมื่อมีการตั้งพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้นถ้าเขาพร้อมเมื่อไหร่ประชาชนก็จะได้เลือกตั้งเมื่อนั้น ส่วนมาตรา 44 ก็จะอยู่ไปจนกว่าได้รัฐบาลชุดใหม่ เป็นอำนาจที่อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ กลายเป็นอภิรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันอานุภาพของคำสั่ง คสช. เริ่มถดถอยลง เพราะการเข้ามามีอำนาจด้วยปืน และแปลงร่างปืนให้เป็นกฎหมายย่อมมีวันอ่อนแอลง ดังนั้นนี่คือโค้งสุดท้ายของคสช. องค์กรอิสระมีโอกาสที่จะกลับยืนข้างประชาธิปไตย เพราะ คสช.ไม่สามารถคงอยู่ตลอดไปได้
ทั้งนี้ นายปิยบุตร ได้เสนอให้ คสช.ยกเลิกทุกคำสั่งที่ละเมิดประชาชน พร้อมเรียกร้อง กกต. ให้กลับมาเป็นองค์กรอิสระที่จัดเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรม วันนี้พิสูจน์แล้วว่าพรรคการเมืองทุกพรรคสามารถพูดคุยกันได้หมด ข้ออ้างความวุ่นวายไม่สามารถนำมาใช้ได้แล้ว เหลือเหตุผลอย่างเดียวคือกลัวพรรคการเมืองได้เปรียบตัวเอง
“คสช.ต้องการใช้เลือกตั้งครั้งนี้สืบทอดอำนาจ ดังนั้นประชาชนต้องใช้การเลือกตั้งครั้งนี้ยุติการสืบทอดอำนาจ ด้วยการใช้ 4 วินาทีในคูหา เพื่อแสดงพลังให้เห็นว่าเราสามารถยุติการสืบทอดอำนาจได้ภายใน 4 วินาที” ปิยบุตร กล่าว
'ประชาธิปัตย์' เชื่อพรรคการเมืองพร้อมต่อสู้ เดินหน้าสู่ 'ประชาธิปไตย'
นายราเมศ รัตนะเชวง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าอยากเห็นการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่สามารถลงพื้นที่สื่อสารกับประชาชน และให้ประชาชนได้ตัดสินใจตามระบอบของประชาธิปไตย อย่างไรก็ดี เชื่อว่าการเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562 จะเกิดขึ้นจริง เพราะผู้ใช้อำนาจคงไม่สามารถหาเหตุผลในการเลื่อน เพราะมีกฎหมายประกาศชัดเจนแล้ว ขณะที่คนที่ผิดคำพูดกับประชาชนต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่การดำเนินคดีกับผู้ที่ออกมาเรียกร้องการเลือกตั้ง ตั้งแต่คสช.เข้ามาด้วยการอ้างการปฏิรูปเพื่อพาประเทศเป็นประชาธิปไตย แต่ความเป็นจริงการเขียนรัฐธรรมนูญ พบว่ามีคำว่า เสรี 52 คำ และสิทธิและการคุ้มครองระบุในรัฐธรรมนูญชัดเจน แต่ไม่สามารถใช้การได้ เพราะยังอำนาจมาตรา 44
เช่นเดียวกับคำว่าความ 'เป็นธรรม' ที่ระบุไว้ 29 คำ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถใช้ได้จริง จึงอยากเรียกร้อง ให้กกต. ตั้งตัวเป็นเป็นกลางและปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ เชื่อว่าพรรคการเมืองทุกพรรค พร้อมที่จะต่อสู้ไม่ว่าจะสู้กับกติกาของประชาธิปไตย และหลายคนก้าวไปพร้อมจุดไฟให้ประชาธิปไตยลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง
"ถึงเวลาแล้วที่จะนำพาประเทศนี้ก้าวผ่านกระบวนการเลือกตั้งไปสู่ประชาธิปไตย คุณด่าว่านักการเมืองเลว แต่ผู้มีอำนาจขณะนี้กำลังกลืนน้ำลายตัวเอง ด้วยการตั้งพรรคการเมือง แล้วนี่คือความเป็นธรรมในการเลือกตั้งหรือไม่” นายราเมศ กล่าว
'ชาติไทยพัฒนา' เรียกร้อง คสช.ปลดอาวุธ เล่นการเมืองตามกติกา
นายภราดร ปริศนานันทกุล พรรคชาติไทยพัฒนา เสนอให้มีการปลดล็อกคำสั่ง คสช. เพื่อให้เกิดเสรีภาพในการเลือกตั้ง ขณะที่พรรคการเมืองทุกพรรคต้องเลิกเล่นการเมืองแบบเก่า ที่สาดโคลนใส่พรรคที่เป็นขั้วตรงข้าม ขณะ กกต. ที่จะเป็นกรรมการ ต้องทำงานอย่างมีอิสระและไม่ต้องฟังอาณัติสัญญาณจากใคร และต้องทำงานอย่างตรงไปตรงมา รวมถึง คสช.ก็ต้องเล่นตามกติกาไม่เอาเปรียบพรรคอื่น
"ผมอยากเรียกร้องพรรคที่สนับสนุนคสช. กติกาคุณก็ได้เปรียบ เรามาเล่นตามกติกาที่พวกคุณได้เปรียบ แบบแฟร์ๆได้ไหม ท่านยกเลิก ม.44 แล้วก็มาเล่นตามกติกา ท่านกล้าหรือไม่ครับ” นายภราดร กล่าว
นอกจากนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องไม่เป็นเพียงพิธีกรรม และควรเชิญชวนต่างประเทศมาเข้าร่วมสังเกตการณ์ เพื่อที่เป็นหลักประกันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เสรีและเป็นธรรมอย่างแท้จริง ทั้งนี้อยากให้พรรคการเมืองมาร่วมกันกันกำหนดกติกา ตั้งสสร. เพื่อกำหนดทิศทางประเทศร่วมกัน
'ประชาชาติ' เชื่อ 24 ก.พ. 62 วันแสดงพลังประชาชนต้านการต่อท่ออำนาจ
นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ พรรคประชาชาติ กล่าวว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับที่แย่ที่สุด เพราะร่างมาเพื่อสืบทอดอำนาจ อย่างไรก็ตามหากทั้งทุกพรรคการเมืองจับมือกัน ประกาศต่อสู้กับเผด็จการตนเชื่อว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ดังปรากฎในวันที่ 7 สิงหาคม ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดภาคใต้โหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2560 อย่างถล่มทลาย ทั้งนี้ยืนยันว่าพรรคประชาชาติ มีจุดยืนชัดเจนในการยึดหลักการประชาธิปไตย
"การเลือกตั้งเที่ยวนี้จะเห็นพลังของประชาชน 4 ปี ที่ผ่านมายางพารา 3 กิโล 100 ชาวบ้านเขาไม่โง่หรอก เพราะชาวบ้านเขาเจ็บแล้วจำ” อารีเพ็ญ กล่าว