การเมือง
ผบ.ทบ. วอนสื่องดตีข่าวชุมนุมทางการเมืองครั้งใหญ่กลางเดือน พ.ค. นี้
พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก หรือ ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในหลายประเด็น เริ่มจากการระบุถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือสถานการณ์การเคลื่อนไหวทางการเมือง ในช่วงเดือน พ.ค.นี้ว่า ไม่มีอะไรที่น่าห่วงใย และต้องแยกเรื่องนี้ออกจากเรื่องการเมือง โดยในส่วนของความมั่นคงทางกองทัพมีแผนการรองรับอยู่แล้ว และมองว่าการชุมนุม เป็นเรื่องของการเรียกร้องของคนกลุ่มเดิมที่อยากเลือกตั้ง ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนเรื่องของสถานที่ รายละเอียด และจำนวนคน จึงต้องมีการติดตาม
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวไม่อยากให้สื่อไปตีข่าวว่าจะมีการชุมนุมใหญ่ เพราะจะส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ ซึ่งอาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดคิดก็ได้ เพราะเป็นกระบวนการที่ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงก่อนสงกรานต์จึงไม่กังวลอะไร
ส่วนกรณีที่กลุ่มการเมืองต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้ ผบ.ทบ. ให้ความเห็นว่า โดยส่วนตัวมองว่าการเคลื่อนไหวยังอยู่ในกรอบ ซึ่งเป็นการแสดงความคิดเห็นของแต่ละกลุ่มการเมืองที่ต้องการแสดงตัวตน ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่หากใครออกมาให้ข้อมูลที่ไม่มีหลักฐานเพียงพอ จะต้องดูว่าเกิดความเสียหายหรือไม่ หากเกิดความเสียหายก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ เพราะบ้านเมืองต้องตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง หากกล่าวหากันลอยๆ ไม่มีหลักฐาน อาจทำให้เกิดความสับสนได้
สั่งแม่ทัพภาค 3 ดูแลการชุมนุมของเครือข่ายทวงคืนผืนป่าเชิงดอยสุเทพ 29 เม.ย.
ผู้บัญชาการทหารบกยังกล่าวถึงกรณีการก่อสร้างบ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ว่า ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้รับทราบข้อมูลปัญหาบ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพแล้ว และเตรียมตั้งคณะทำงานส่วนกลางเพื่อรวบรวมข้อมูลประกอบการตัดสินใจเพื่อหาทางออกและยุติปัญหานี้
โดยคณะทำงานชุดนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อตรวจสอบและไม่ให้มีผลกระทบตามมา เพราะต้องเป็นผู้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน จะวางแนวทางฟื้นฟูกลับคืนมาเหมือนเดิมหลังผ่านพ้นกระบวนการ พร้อมยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบบนพื้นฐานของความถูกต้อง
ส่วนที่กลุ่มเครือข่ายทวงคืนผืนป่าเชิงดอยสุเทพ จะจัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 29 เม.ย.นี้ ว่าถือเป็นการชุมนุมเชิงสัญลักษณ์์ แสดงเจตนารมณ์ไม่ถือเป็นการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งกองทัพพร้อมอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม
ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้แม่ทัพภาคที่ 3 ลงไปชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมแล้ว และขอให้ผู้ชุมนุม ชุมนุมโดยสงบอยู่ภายใต้เหตุผลและกรอบของกฎหมาย
ส่วนกรณีที่อดีตประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 แสดงความคิดเห็นว่าจะไม่ควรรื้อบ้านพักและจะขอให้ตุลาการเข้าอยู่ก่อน 10 ปี นั้นเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงความคิดเห็น ซึ่งคนที่จะตัดสินใจได้คือคณะทำงานที่นายกรัฐมนตรีจะตั้งขึ้นมา
มั่นใจ 'เซฟตี้โซน' ชายแดนใต้ เป็นตัวอย่างการเริ่มต้นที่ดี
นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกรณีคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กำหนดพื้นที่ความปลอดภัย หรือเซฟตี้โซนกับกลุ่มผู้เห็นต่าง ที่อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ว่าเป็นเรื่องข้อตกลงของคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ เพื่อกำหนดและดูแลพื้นที่ส่วนนั้นให้เกิดความปลอดภัย และถือว่าเป็นขั้นตอนในกระบวนการพูดคุยในการกำหนดพื้นที่เซฟตี้โซน ทั้งการทดสอบความจริงใจ ทดสอบศักยภาพของผู้เจรจา ทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นไปตามขั้นตอน
พร้อมกับย้ำ ว่ากองทัพดูแลทุกพื้นที่อยู่แล้วและทุกพื้นที่จะต้องปลอดภัย สำหรับแผนดังกล่าวถือว่ามีอยู่แล้ว แต่ถือว่าเป็นการทดสอบ เพื่อให้รู้ว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ปลอดภัย หากเกิดความปลอดภัยทุกอย่างก็สามารถต่อไปได้
แต่หากไม่ปลอดภัยก็ต้องทบทวนในรายละเอียด ซึ่งเป็นเรื่องของคณะพูดคุย ส่วนหากเกิดเหตุความไม่สงบ ผู้บัญชาการทหารบกระบุอย่ากังวลเพราะมีแผนรับมือแล้ว ซึ่งที่จริงแล้วกองทัพอยากให้ทุกพื้นที่ปลอดภัย แต่พื้นที่นี้ถือว่าเป็นตัวอย่างและเริ่มต้น
อ่านเพิ่มเติม
