ไม่พบผลการค้นหา
กองบัญชาการกองทัพไทยมีคำสั่งให้ ร.ท.ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา พักงานชั่วคราว หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินทอนวัด โดยให้เข้ารายงานตัวต่อต้นสังกัดใน 15 วัน หากไม่มาจะถูกปลดออกจากราชการทันที

พล.อ.หัสพงศ์ ยุวนวรรธนะ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทำการแทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด ลงนามในคำสั่งกองบัญชาการกองทัพไทย ที่ 208/2561 สำรองราชการ ร.ท.ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา นายทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยพัวพันกับคดีทุจริตเงินทอนวัด โดยให้ ร.ท.ฐิติทัตน์ เข้ารายงานตัวต่อต้นสังกัดภายใน 15 วัน หากไม่มาจะถูกปลดออกจากราชการทันที 

โดยหลังจากที่ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเร่งด่วน และคณะกรรมการได้พยายามติดตามตัว ร.ท.ฐิติทัตน์ มาสอบสวนแต่ไม่สามารถติดต่อได้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติเข้ารับราชการของ ร.ท.ฐิติทัตน์ ใช้วุฒิปริญญาตรีเข้ารับราชการทหารประจำศูนย์รักษาความปลอดภัย เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2559 หลังจากนั้นถูกส่งตัวเข้ามาช่วยราชการที่สำนักงานรองเสนาธิการทหาร แต่ ร.ท.ฐิติทัตน์ ไม่เคยมาทำงานที่สำนักงาน เพราะถูกขอตัวไปช่วยราชการที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งตามระเบียบทางราชการทางผู้ว่าฯ สตง.สามารถร้องขอนายทหารไปติดตามดูแลได้ เพราะการทำหน้าที่ของผู้ว่าฯ สตง.ในเรื่องการตรวจสอบต่างๆ อาจมีอันตราย แต่กลับไม่พบว่ามีหนังสือขอตัวไปช่วยราชการที่ สตง. ของ ร.ท.ฐิติทัตน์ อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร แต่เป็นที่รู้กันว่า ร.ท.ฐิติทัตน์ ติดตามนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินในขณะนั้น จนมีเหตุการณ์ตรวจค้นบ้านพักและพบอาวุธปืนจำนวนมาก

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีกองปราบปรามตรวจสอบพบว่า ร.ท.ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา ทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย พัวพันคดีทุจริตเงินทอนวัดว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นพบว่ามีความเกี่ยวข้อง แต่ไม่เป็นไรทุกอย่างว่าไปตามพยานหลักฐานไม่ต้องห่วงใครทำผิดว่าไปตามผิด