ไม่พบผลการค้นหา
‘อดิศร’ ลุกอภิปรายหนุน ‘พิธา’ นั่งนายกฯ ครั้งนี้เลือกตั้ง ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ คะแนนใกล้กัน เปรียบเป็นไข่เป็ด-ไข่ไก่ เบอร์ศูนย์เหมือนกัน แต่ยอมรับ ‘ก้าวไกล’ เป็นส้มตำเผ็ดกว่าใส่พริกเยอะ วอน ส.ว. เคารพมติประชาชนกู้ศรัทธา

วันที่ 13 ก.ค. ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) วาระโหวตเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี อดิศร เพียงเกษ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายในฐานะตัวแทนพรรคเพื่อไทย เพื่อสนับสนุน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี

อดิศร กล่าวว่า พรรคการเมืองต่างๆ ที่อยู่ในรัฐสภาแห่งนี้ ได้ผ่านการเลือกตั้ง ผ่านความยากลำบากในการแข่งขันเมื่อวันที่ 14 พ.ค. เป็นสนามที่ประชาชนกลั่นกรองพวกเรา ผู้สื่อข่าวกลั่นกรองพวกเรา องค์กรอิสระกลั่นกรองพวกเรา แทบเอาตัวไม่รอดสักพรรค จึงขออนุญาตแสดงความดีใจกับ ส.ส. ทุกท่าน ทุกพรรค โดยทุกคนเป็นฝ่ายประชาธิปไตยทั้งหมด แต่เวทีหาเสียงอาจจะต่างกันบ้าง แต่วันนี้เป็นฝ่ายประชาธิปไตยทั้งนั้น จะมาทำหน้าที่ในการเลือกนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน 

ที่ผ่านมาประเทศไทยใช้เฉพาะ ส.ส. โดยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ให้ความสำคัญแก่ ส.ว.ในการเลือกนายกฯ ได้ 2 ครั้ง ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของท่านผมจะไม่ก้าวก่าย ก้าวล่วงไปถึงดุลพินิจของ ส.ว. ผู้ทรงเกียรติ ผมถือว่าท่านเป็นผู้ที่มีความรู้จะชี้ผิดชี้ถูก แต่ความคิดเห็นทางการเมืองแตกต่างกันได้ 

“การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีพรรคการเมืองใดที่ได้คะแนนเกิน 250 เสียง โดยพรรคก้าวไกลได้คะแนนมากกว่าเพื่อนคือ 151 ที่นั่ง ตามติดมาด้วยพรรคเพื่อไทย 141 ที่นั่ง เป็นไข่เป็ดกับไข่ไก่เบอร์ศูนย์มาด้วยกัน”

อดิศร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเคารพกติกาประชาธิปไตยในฝ่ายบริหาร เมื่อพรรคก้าวไกลได้ 151 ที่นั่ง เราสมัครใจภูมิใจที่จะสนับสนุน พิธา เป็นผู้นำในฝ่ายบริหาร คือ นายกรัฐมนตรีตั้งแต่ต้น และได้รวบรวมเสียงต่าง ๆ มาเป็น 312 เสียง

วันนี้พรรคเพื่อไทยยืนยัน 100% ยกมือสนับสนุนนายพิธา ไม่ว่าจะคิดตรงกันหรือไม่ แต่ผู้พิพากษาตัวจริง ได้ตัดสินพิพากษาความไปแล้ว ไม่มีศาลอื่นใด ที่จะมาตัดสินความเรื่องประชาธิปไตย 14 พ.ค. ได้พิพากษาโดยเด็ดขาดไม่มีผู้แทนฎีกา ต้องให้พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และพรรคการเมือง 8 พรรคร่วม ต้องไปทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมขอบคุณฝ่ายรักษาการรัฐบาลที่ไม่เสนอชื่อมาแข่ง

“การเลือกตั้งจบไปแล้ว แต่ตอนนี้เหมือนการลากตั้ง จึงเป็นปัญหาที่จะต้องมีคนดึงขาคนที่ได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่ง ผมอยากให้พี่น้องประชาชนชาวไทย เจ้าของอำนาจอธิปไตยแท้จริง เขาอยากเห็นรัฐบาลอยากมีนายกรัฐมนตรีจากพรรคที่ได้ 151 เสียง ขึ้นเป็นนายกฯ”

อดิศร ระบุว่า อาจจะมีคนคลางแคลงสงสัย ว่าพรรคเพื่อไทยจริงใจหรือไม่ ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจริงใจ รู้กติกา เพราะเราก่อตั้งมาแล้ว 22 ปี เรามีบทเรียน เราเคยได้คะแนนเด็ดขาด 377 เสียง แต่ครั้งนี้ก้าวไกลเป็นส้มตำที่เผ็ดกว่าเรา ใส่พริกมากกว่าเรา แต่เรายังเป็นเพื่อนกัน

“ความศรัทธาจะเกิดขึ้นหรือไม่ อยู่ที่การกระทำของ ส.ส. และ ส.ว. ประชาชนจะให้ความศรัทธาหรือไม่ อยู่ที่การกระทำวันนี้ว่าจะเดินอย่างไร”

“ขอสนับสนุนคุณพิธา ขึ้นเป็นนายกฯ คนที่ 30 ครับ คุณวุฒิ การศึกษา ไม่ต้องพูดถึง อายุเหมาะๆ 40 ปี ผมเคย 40 ปี มาก่อน รู้ว่ามันเร่าร้อน เดินทางไปไหนไม่เหนื่อย แต่เดี๋ยวนี้มากกว่า 40 ปี นิดหน่อย บางทีมันสมองก้าวหน้ากว่า 40 ปี เรามาจับมือกันเป็นข้าวต้มมัด”

อดิศร ยังระบุว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหา ต้องแก้ไขไม่มีที่ไหนในโลก ที่ทั้ง 2 สภามานั่งพูดคุยกันเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะสร้างชื่อเสียให้กับรัฐสภา ก่อนจะขอทิ้งท้ายด้วยบทกลอน เพราะตนเป็นกวีซีรอกส์ จัดติ๊กต๊อกทุกเช้า 

“ขอสัญญาจะเลือกพิธาเป็นนายกฯ

ขอสมาชิกรัฐสภายกมือสนับสนุน

ประชาชนเขาเลือกมานั้นเป็นทุน

พิธาจะทำงานแทนคุณประเทศเอย” อดิศร กล่าวทิ้งท้าย