ไม่พบผลการค้นหา
อีกไม่ถึง 2 วัน ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลจะอุบัติขึ้น กาปฏิทินลงล็อกกันเปิดศึกซักฟอก 24-26 ก.พ. ฝ่ายค้าน 6 พรรค (รวมอดีตพรรคอนาคตใหม่) เหลือ 224 เสียง ที่มี ‘เพื่อไทย’ เป็นแกนนำ

ร่วมขบวน ส.ส.ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อชาติ พรรคประชาชาติ พรรคพลังปวงชนไทย พรรคเสรีรวมไทย กับอีก 1 ส.ส.มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ 1 เดียวของพรรคเศรษฐกิจใหม่

กาชื่อ 1 นายกรัฐมนตรี บวก 5 รัฐมนตรี รวม 6 ชีวิตเป็นเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ฝ่ายค้าน “แย้มไต๋” เป็นออร์เดิร์ฟซักฟอก

ในกรณี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แน่นอนว่าต้องถูกขุดไปถึงอดีตกาลสมัยที่นำกองทัพเข้ายึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญ ไม่เคารพระบอบประชาธิปไตย กระหน่ำซ้ำด้วยการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจผิดพลาด ทำเศรษฐกิจฝืดเครือง ในฐานะที่ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นเหมือนหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พ่วงประเด็นที่มีกลิ่นตุๆ อย่างกรณีที่การซื้อขายที่ดินย่านบางบอน - บางนา การต่อสัญญาศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 50 ปี ซึ่งเอื้อเจ้าสัวน้ำเมา

ประยุทธ์-วิษณุ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ถูกข้อกล่าวหาเรื่องล็อกสเป๊กงานพีอาร์ให้บริษัทคนใกล้ชิด ตัวย่อ ช.- บ.

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ + นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ เป็นข้อกล่าวหาที่เกี่ยวพันกัน กรณีอื้อฉาว “บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส” ตามที่อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องดำเนินคดี 2 คดี 1.การนำเข้าบุหรี่จากประเทศฟิลิปปินส์ รวมราคาบุหรี่และค่าอากร 20,210,209,582.50 บาท

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ถูกพุ่งเป้าซักฟอก กรณีที่เกี่ยวกับการนำเข้าขยะจากต่างประเทศ โยงกับนักลงทุนจีนที่ได้รับอนุญาตให้ผู้ประกอบการเพียง 2 ราย ที่ได้รับอนุญาตนำเข้าขยะ รวมถึงปมโรงไฟฟ้าขยะ ซึ่งโยงถึงบุตรชายเข้ามาเกี่ยวข้อง

และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด คุณสมบัติ – ความเหมาะสมในการเป็นรัฐมนตรี ​

รัฐสภา- ปิยบุตร สุทิน 0212_0009.jpg

“สุทิน คลังแสง” ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงความพร้อมศึกซักฟอกอย่างมั่นใจ

“ฝ่ายค้านเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้แล้ว 95 เปอร์เซ็นต์ เนื้อหาสาระลงตัวเรียบร้อย รวมผู้อภิปรายทั้งสิ้น 34-35 คน”

“คาดว่า หลังการอภิปรายมีไม่ต่ำกว่า 5 เรื่องที่จะส่งร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รอบนี้มีเรื่องเซอร์ไพรส์แน่นอน เป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วแต่คาดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้มากถึงเพียงนี้ ฝ่ายค้านจะอภิปรายลงลึกจนสามารถเอาผิดรัฐมนตรีได้”

“เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่ยึดมั่นประชาชนจะลุกขึ้นมายื่นคำขาดให้พรรคแกนนำทำอะไรสักอย่าง เหมือนที่พรรคพลังธรรมเคยกดดันจนรัฐบาลขณะนั้นต้องยุบสภาฯ เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์คล้ายกัน”

ทั้งนี้ชื่อรัฐมนตรี 4-5 รายว่าไปพิสูจน์ความผิดที่ ป.ป.ช. มีอย่างน้อย 4 คนชัวร์ 1.พล.อ.ประยุทธ์ 2.ดอน 3.วิษณุ 4.พล.อ.อนุพงษ์ เผลอๆ อาจมีรายที่ 5. พล.อ.ประวิตร

เฉลิม 13.jpg

“ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ “พรรคเพื่อไทย” แม่ทัพซักฟอกของพรรค ตั้งชื่อภารกิจซักฟอกครั้งนี้ว่า “ยุทธการอรุณรุ่ง”

“ที่เรียกว่ายุทธการอรุณรุ่ง เพราะ .. เพราะเราไม่ได้อาฆาตมาดร้าย ทุกอย่างจะมีเหตุผลอธิบายในวันที่อภิปราย มีข้อมูลที่ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร (รองประธานกิจการพิเศษพรรค) เสิร์ฟไปบ้างผ่านสื่อ นั่นเป็นแค่ออเดิร์ฟ ส่วนเมนคอร์สจะอยู่ในสภา แล้วจะเห็นว่ารัฐบาลเลวได้ขนาดนี้เลยหรือ”

“หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจคะแนนฝ่ายค้านต้องแพ้อยู่แล้ว แต่เชื่อว่าข้อมูลที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์และผมมี รัฐบาลจะอาย เดินถนนลำบาก แม้โรค (โคโรนาไวรัส) หมดไปแล้วแต่รัฐบาลยังต้องสวมหน้ากาก เพราะอาย”

“รัฐบาลถูกอภิปรายแล้วต้องอาย พวกที่ทำตัวเป็นองครักษ์จะไปรู้ข้อมูลอย่างไร พวกนี้ดูแล้วเป็นนางงามตกรอบทั้งนั้น”

ส่วนฝ่ายค้านเบอร์ 2 อย่าง “อนาคตใหม่” แม้จะเพิ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ตัดสิทธิแกนนำตัวหลักอย่าง ‘ปิยบุตร แสงกนกกุล’ พ้นจากสภาฯ ไป จาก 76 เสียง เหลือ 65 เสียง ก็คาดการณ์ว่าจะยังจัดทัพ 15 ขุนพล ไว้อภิปรายแบบจัดหนักกับรัฐบาล พุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อนุพงษ์ พล.อ.ประวิตร ร.อ.ธรรมนัส + นายวิษณุ ยกเว้น นายดอน เพียงคนเดียว เพราะข้อมูลไปไม่ถึง

ธรรมนัส

พรรคประชาชาติ พุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหลัก เช่นเดียวกับ เสรีรวมไทย - เพื่อชาติ ส่วน “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ” ที่แยกตัว ตัดความสัมพันธ์ออกจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่ถอนตัวจากการเป็นพันธมิตรฝ่ายค้าน จะใช้โควตาเวลาของ “เพื่อไทย” ซักฟอก “พล.อ.ประยุทธ์” ในด้านผลงานแก้วิกฤตเศรษฐกิจที่ไม่ตรงเป้า ทำประชาชนเดือดร้อน

โดยรวมๆ แล้ว พรรคเล็กในซีกฝ่ายค้านจะได้โควตาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพรรคละ 1-2 คน

ขณะที่การ “ผนึกกำลัง” ในภาพรวมของ 6 พรรคฝ่ายค้าน นั้น

จะมีทีมหน้างานในสภา เผชิญสถานการณ์จริงโดยวิปฝ่ายค้านทั้ง 6 พรรค คอยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า 

ถัดจากหน้างานเป็นทีม “วางกลยุทธ์” เป็นวอร์รูมที่รวบรวมหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรคทั้ง 6 พรรค สำหรับดู - ประเมินสถานการณ์ ประสานกับทีมหน้างาน

สมพงษ์-วิรัช-ฝ่ายค้าน

ถัดจาก “ทีมกลยุทธ์” มาสู่ “ทีมหลังบ้าน” แต่ละพรรคจะมี “ทีมงานหลังบ้าน” คอยซัพพอร์ตข้อมูลหลัก ข้อมูลเสริม – เสริมทัพด้วยทีมโซเชียลมีเดีย

ตัดต่อ – อัพโหลดคลิปไฮไลต์การอภิปรายของขุนพลซักฟอกของแต่ละพรรคลงโซเชียลมีเดีย

ในส่วนเพื่อไทย “ร.ต.อ.เฉลิม” ขนานนามตนเองว่า....“ทีมผมจะเป็น บก.ส่วนหลัง”

แม้ในสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านอาจจะแพ้จำนวนมือฝ่ายรัฐบาล ที่ไม่ใช่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอีกต่อไป

ในทางตรงกันข้าม พรรคฝ่ายค้านจำนวนเสียงลดลง เหลือ 224 เสียง ขณะที่รัฐบาลยังคงมีเสียงเท่าเดิม 263 เสียง โดยสภาฯ ปัจจุบันมียอด ส.ส.เท่าที่มีอยู่ 487 คน เสียงโหวตไว้วางใจตัวรัฐบาลจะต้องมากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาฯ เท่าที่มีอยู่หรือมากกว่า 244 เสียง หากไม่ผิดพลาดอะไร ตัวรัฐมนตรีที่ถูกขึ้นเขียงชำแหละน่าจะได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจ

แต่ตอนจบของศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านหวังว่าจะทำให้ ประชาชนเสื่อมศรัทธา “ระบอบประยุทธ์” มากกว่าในเวลานี้ 

อย่างที่ ร.ต.อ.เฉลิม ว่าไว้ “แม้โรค (โคโรนาไวรัส) หมดไปแล้วแต่รัฐบาลยังต้องสวมหน้ากาก เพราะอาย”