นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส. พรรคประชาชาติ อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม โดยมีเนื้อหาว่า นายกรัฐมนตรีมีปัญหากับรัฐธรรมนูญ ประการแรก เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีโดยการล้มล้างการปกครองและฉีกรัฐธรรมนูญ และใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเพื่อให้ตนไม่ผิด โดยมาตรา 279 ซึ่งเป็นการเอาเปรียบคนทั้งประเทศ ไม่ปฏิบัติตาม มาตรา 161 คือการถวายสัตย์ มาตรา 162 คือต้องชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ในการแถลงนโยบาย มาตรา 184 และมาตรา 186 การขัดกันของผลประโยชน์ ไม่รับผลประโยชน์ใดจากหน่วยราชการ คือพักในบ้านพักทหาร ซึ่งแม้จะอ้างข้อบังคับของกองทัพบก แต่ขัดกับรัฐธรรมนูญไม่ได้ เช่นเดียวกับเรื่องของพรรคอนาคตใหม่ที่รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำยังมีความผิดถึงขั้นยุบพรรคด้วยความผิดการรับประโยชน์อื่นใด แม้จะอ้างว่าอยู่ข้างนอกไม่ปลอดภัย แล้วคนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในค่ายทหารจะรู้สึกปลอดภัยหรือไม่ มันเป็นปัญหาและตัวอย่างที่ไม่ดี แล้วนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยไปอยู่จะเหมาะสมหรือไม่

"นายกรัฐมนตรีอาจจะเห็นว่าการไม่ปฏิบัติตามก็เฉยๆ ไม่มีบทลงโทษใดๆ แม้รัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 จะไม่ดี แต่ก็มีข้อหนึ่งที่ไม่เหมือนฉบับอื่น คือการกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการและองค์กรอิสระ รวมทั้ง ส.ส. ส.ว. และคณะรัฐมนตรีด้วย ตามมาตรา 219 ซึ่งเป็นมาตรฐานทางจริยธรรมที่ใช้กับราชการทั่วประเทศ นายกฯ ซึ่งเป็นประธานจริยธรรมแต่กลับทำตัวขัดกับจริยธรรมเอง แล้วจะบังคับใช้กับผู้อื่นได้อย่างไร และผลตามหมวด 4 ข้อ 27 ถือเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมที่มีลักษณะร้ายแรง ทำให้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 160 และ 170 ซึ่งตนส่งเรื่องนี้ให้กับ ป.ป.ช. ไปแล้ว"

แฉ เตรียมการยึดอำนาจ 3 ปีเคยขู่วันยึดอำนาจในวงแก้ปัญหาขัดแย้ง

นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า นายกฯ ชอบพูดตลอดเวลาว่าที่ตนต้องรัฐประหารและฉีกรัฐธรรมนูญเพราะบ้านเมืองวุ่นวาย แต่ท่านพูดความจริงไม่หมด เพราะวันที่ 22 พ.ค. 2557 ตนจำได้ว่านายกฯ บอกว่าตนต้องยึดอำนาจการปกครองของประเทศไทยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป พร้อมกับยืนแล้วชี้หน้าคนที่เข้าประชุมว่าอย่าคิดสู้ ตนเตรียมการเรื่องนี้มา 3 ปีกว่า ซึ่งตั้งแต่ปี 2554 บ้านเมืองยังไม่ถึงขั้นที่ต้องปฏิวัติ ซึ่งมีคนเขานินทาว่าที่ต้องอยู่ในค่ายทหารเพราะต้องทำวอร์รูมในการปฏิวัติ แต่ตนเห็นว่าการเตรียมการปฏิวัติมักทำในหน่วยทหาร ดังนั้นถ้า ผบ.ทบ. หรือ อดีต ผบ.ทบ. อยู่ในนั้นก็ย่อมเสี่ยงต่อการล้มล้างการปกครอง อีกทั้งนายกฯ ยังกล่าวหลังพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่า “ขอให้รักลุงสุเทพ ให้มากๆ เพราะเขาดูแลเรา” และปี 2562 นายสุเทพก็พูดถึงตนตอนลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ และพูดในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์หนึ่งว่าติดต่อกับ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ปี 2553 และจากคำพูดของนายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ก็ออกมาเปิดเผยว่าเป็นการเตรียมการมานาน และที่ไปในมูลนิธิหนึ่ง ก็พบกับนายกฯ รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย 

ด้านนายอิสระ สมชัย ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ประท้วงว่าสิ่งที่นายวันมูหะมัดนอร์พูดมาตนไม่เชื่อว่านายนคร มีน้ำหนัก และทำให้พรรคตนเสียหาย

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีล้มล้างรัฐธรรมนูญโดยคบคิดกันมานาน และในปัจจุบัน เราใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 ซึ่งมีคนเคยพูดว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่พวกเรา แต่ความเป็นจริงต้องร่างมาเพื่อประชาชนทั้งประเทศ อีกทั้งนายวันมูหะมัดนอร์ ยังนำเสนอแผนการสืบทอดอำนาจของ คสช. โดยเริ่มจากเขียนรัฐธรรมนูญฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ แต่ไม่เอาเพราะอยากอยู่ยาว, สร้างกติกาการเลือกตั้งที่ให้ประโยชน์กับตัวเอง, แต่งตั้ง ส.ว. ให้โหวตเป็นนายกฯ, เลือกคนนั่งองค์กรอิสระเพื่อคุ้มครองตัวเอง, เขียนยุทธศาสตร์ 20 เป็นเครื่องมือให้ตัวเอง, เขียนแผนปฏิรูปไว้ลงโทษฝ่ายตรงข้าม, ออกคำสั่ง ม.44 ปิดปากคนเห็นต่าง, ตั้งพรรคเองเปิดทางเป็นนายกฯ และให้เงินกองกลางไปให้กำนันและผู้ใหญ่บ้าน เป็นต้น และมีข่าวการซื้องูเห่าราคา 23 ล้านบาท ซึ่งไม่ควรทำในสัปปายะสภาสถาน อยากให้คำนึงถึงประชาชน เพราะคุณค่าของประชาชนมีค่ามากกว่าหนี้ของเรา และตนเห็นมาตลอดว่าหลังเลือกตั้งใหม่ไม่มี ส.ส. โสเภณีใดได้รับเลือก สวรรค์มีจริง กรรมมีจริง ประชาชนไม่โง่ ตนอยากดูว่าหลังเลือกตั้งใหม่จะมีงูเห่าเข้ามาอีกกี่คน ประชาธิปไตยต้องมีประชาชนเป็นหลัก 

ล้มเหลวแก้ปัญหาชายแดนใต้ ส่อพิรุธงบบูรณาการฯ

ส่วนความล้มเหลวจากการแก้ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะงบบูรณาการแก้ปัญหาฯ ล่องหนได้จำนวนมาก งบเหาะเข้ากระเป๋าใครก็ต้องตรวจสอบ เครื่องตรวจระเบิดหรือเรือเหาะก็เช่นกัน อีกทั้งงบประมาณโซลาร์เซลล์อีกพันกว่าล้านก็วิ่งเข้ากระเป๋าใครไปมากกว่าครึ่ง ทุกวันนี้โซลาร์เซลล์เสียหายไปถึง 75 เปอร์เซ็นต์ การจัดสรร Safe Zone School ในการติดตั้ง CCTV 6 กล้องราคาสามแสนกว่า ซึ่งแพงกว่าที่เป็นจริงถึง 3 เท่า

ป.ป.ช. สอบแล้วผู้อำนวยการเขตหลายเขตก็ต้องถูกย้าย ซึ่งงบทั้งหมดนี้ กอ.รมน. ดูแล ทั้งที่งบ CCTV ต้องเป็นของกระทรวงศึกษาธิการ แต่คนเขียนสเปกกับเป็นทหาร และคนตรวจรับก็เป็นทหาร แต่ตนกังวลว่าหากฟ้อง ป.ป.ช. มีการตรวจสอบคนในกระทรวงศึกษาก็โดนระงับการขึ้นเงินเดือนเพื่อตรวจสอบ แต่ทหารไม่โดน ดังนั้นตนจึงฝากรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการดูเรื่องนี้ ตนเห็นว่าปัญหาสามจังหวัดไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยระบบเผด็จการทหาร แต่ต้องเอาการเมืองนำการทหาร และที่พูดว่าสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่รายการของสำนักนายกรัฐมนตรี แผนบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ ปรากฎว่าเมื่อเปรียบเทียบเหตุการณ์ในปี 2561 ปี 2562 เพิ่มขึ้น 32 เหตุการณ์ ผู้สูญเสียเพิ่มขึ้น 10 ราย คือภาพรวมเหตุการณ์แย่ลง ไม่ได้ดีขึ้น 

นโยบายที่ล้มเหลวของชายแดนใต้เริ่มมาตั้งแต่ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ล้างประเพณีวัฒนธรรม จนเกิดการตั้งขบวนการใต้ดิน, จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ กลืนชาติพันธุ์ โดยการอพยบคนภูมิภาคอื่นเพื่อเข้าไปกลมกลืน สุดท้ายคนต่างถิ่นก็อยู่ไม่ได้ไม่มีเงินทุน ต้องหนีกลับและขายที่นิคมให้คนในพื้นที่ รวมทั้งตัดไม้ป่าในพื้นที่หมด และพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือการล้างสมอง กอ.รมน. ตั้งเป้าล้างสมองเด็ก 1-5 ขวบ ภายใต้ชื่อโครงการส่งเสริมเผยแพร่ความจริงที่ถูกต้อง ทำให้เด็กลืมอัตลักษณ์ ทำอย่างนี้อาจไม่มีผลวันนี้แต่คนเริ่มต่อต้านแล้ว เหมือนสมัยที่ต่อต้านจอมพล ป. และจอมพล สฤษดิ์ เงินที่เสียไปไม่เท่าไหร่แต่เป็นแผลทางใจของพี่น้องในพื้นที่ เคยมีการขอร้องไม่ให้ทหารใส่เครื่องแบบและอาวุธเข้าโรงเรียน และไม่ต้องการให้ไปเวลาเรียน ในมุมของตน เด็กๆ จะเห็นว่าอาวุธนั้นดี 

"รัฐอำนาจนิยม การทหารทำทุกอย่างเพื่อตนเองและพวกพ้อง ผมไม่ขอร้องให้นายกฯ ลาออก เพราะท่านลงทุนลงแรงมาเยอะ ท่านไม่เท่าไร แต่พวกพ้องท่านมีเยอะ แต่อยากจะบอกว่าคนที่คิดอย่างจอมพลทั้งสองคน แต่สุดท้ายก็ตายต่างประเทศ ทรัพย์สมบัติถูกยึดและคนก็สาปแช่ง อีกทั้งตนยังเห็นว่าเหตุการณ์ที่โคราช เกิดขึ้นเพราะจิตใต้สำนึกที่ไปทำแบบนั้น ฉะนั้นท่านควรตรวจสอบจากหมอและแก้ไขบำบัดให้จิตสำนึกเป็นคนปกติ ไม่คิดอยากอยู่ยาวหรือฉีกรัฐธรรมนูญ" นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุ

‘ธีรรัตน์’ ฉะนายกฯ ไม่มีคุณสมบัติผู้นำ

น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประยุทธ์ว่า มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม มองคนเห็นต่างเป็นศัตรู ปิดปากคนเห็นต่าง สร้างความขัดแย้งให้ขยายวงกล้าง ล้มเหลว และไร้ประสิทธิภาพ เป็นภาระให้แก่ประเทศ ความเสียหายที่นายกฯ เข้ามาดำรงตำแหน่งมีมากมาย อีกทั้งยังไม่มีวุฒิภาวะความเห็นผู้นำ และทัศนคติที่มีต่อคนรุ่นใหม่ แต่นายกฯ กลับดูถูกความสามารถของคนรุ่นใหม่ว่าไม่สามารถพัฒนาประเทศได้ ต้องให้คนรุ่นตนสร้าง แม้จะมาจากเสียงของ ส.ว. แต่กลับมาพูดว่าไม่ได้ใช้เสียง ส.ว. ให้เป็นนายกฯ แต่ตรงกันข้าม ท่าที่ของพล.อ.ประยุทธ์ หลังเหตุกราดยิงโคราช กลับแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่แสดงความเห็นใจ และผิดกาลเทศะ

"เราไม่เคยเห็นนายกรัฐมนตรีลาออกแสดงความรับผิดชอบ ต่อความล้มเหลวในการจัดการเรื่องต่างๆ เช่น ฝุ่น แต่กลับแสดงความรู้เยอะ แต่สุดท้ายก็ไม่รู้อะไร แต่แปลกใจว่าทำไมปล่อยให้คนที่ไม่ศักยภาพพวกนี้มาบริหาร คุณสมบัติต่อมาคือความสามรถในการสื่อสารในภาวะวิกฤติ เช่น กรณีไวรัสโควิด-19 ตนกลับได้ยินแต่เสียงที่บอกว่าบ้านเมืองเราไม่พูดความจริง เพราะมัวแต่ปิดข่าว และการบริหารงานที่ผิดพลาดไม่บอกความจริงกับประชาชนเพื่อเตรียมรับมือ แสดงให้เห็นว่าไม่มีประชาชนในสายตา ดูถูกประชาชนว่าไม่มีวิจารณญาณและตัดสินได้ว่าสิ่งใดถูกผิด นั่นแสดงให้เห็นว่านายกฯ ไม่เห็นว่าคนเท่ากัน อีกทั้งพฤติกรรมของพลเอกประยุทธ์ ยังได้ลามไปถึงรัฐมนตรีคนอื่นๆเลียนแบบ เช่น นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กรณีสหรัฐ-อิหร่าน ทำให้หุ้นตกด้วยความอวดรู้, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กรณีด่านักท่องเที่ยวที่ไม่รับหน้ากากอนามัยจากมือตน และสุดท้ายคือ ผบ.ทบ. ที่ชอบใช้คำพูดหนักแผ่นดิน" น.ส.ธีรรัตน์ ระบุ