วันที่ 10 ก.ค. 2565 ที่ศาลากลางจังหวัดชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค, สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ,สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง และเลขาธิการพรรค, อิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และกรรมการบริหารพรรค รวมถึง ส.ส.ของพรรคจำนวนมาก ร่วมกิจกรรมโรดโชว์ “พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย” ภายใต้ชื่องานเสวนาอนาคตประเทศไทย ชลบุรีภายใต้พลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพื้นที่แรกของเวทีโรดโชว์ 10 ภาคเพื่อพบปะประชาชน ซึ่งการจัดงานดังกล่าวอยู่ภายใต้มาตรการคุมเข้มเพื่อความปลอดภัย และการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ภายใต้มาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มีความยินดีอย่างมากที่ได้มาเยือนจังหวัดชลบุรี และพบปะประชาชน เป็นจังหวัดที่ตนอยู่มาตั้งแต่หนุ่ม ย้ำว่าคนชลบุรีเป็นคนใจถึงพึ่งได้ ใจนักเลง รักพวกพ้อง พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันได้ สอดคล้อง กับแนวทางของพรรคพลังประชารัฐที่เหมือนกับคนชลบุรี ที่ใจถึงพึ่งได้เช่นกัน  ยืนยันว่าการทำงานของพรรค โดยนายกรัฐมนตรีและตนรวมไปถึง ส.ส.ในพรรคได้ผลักดันนโยบายเพื่อสร้างความสุขให้คนชลบุรี ไม่ว่าจะเป็นโครงการแหล่งน้ำภาคตะวันออก ทำให้พี่น้องชาวชลบุรีมีความอุดมสมบูรณ์ มีน้ำอุปโภคบริโภค และเพื่อการเกษตร รวมไปถึงระบบนิเวศ และยังไม่มีน้ำท่วมเลยในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา รวมไปถึงเรื่องที่ดินทำกินจะต้องมีพื้นที่มากขึ้น 

ขอขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับตนในวันนี้ ขอให้คนชลบุรีเลือก ส.ส.ของพรรคทั้ง 10 คนด้วย ความที่เราเป็นคนใจถึงพึ่งได้เหมือนกันทำให้พรรคของเราได้มี ส.ส.จำนวน 5 คน แบบบัญชีรายชื่อ 1 คนและมีรัฐมนตรีอีก 2 คนด้วย จะเห็นว่าพรรคพลังประชารัฐให้ความรักกับคนชลบุรีเป็นอย่างมาก ถึงได้คัดเลือกเป็นตัวแทนรัฐมนตรีถึง 2 คน

"รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้คนชลบุรีรวมไปถึงทุกจังหวัด อยู่ดีกินดีขึ้น และเพื่อที่จะทำให้ประเทศของเรามีความเจริญรุ่งเรืองต่อไป ขอให้พวกเราได้เข้ามารับใช้คนที่นี่อีก ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ให้ ตนจะนำไปต่อสู้เพื่อช่วยคนไทยทุกคน"

สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร. ) กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อนำเสนอผลงานของพรรคที่ทำมาตลอดระยะเวลา 3 ปี ซึ่งมั่นใจว่าประชาชนพร้อมให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลได้เข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในเรื่องการแก้ปัญหาการแพร่ระบาด โควิด 19 ที่พปชร. ได้ร่วมผลักดันนโยบายต่างๆ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ เพื่อลดผลกระทบจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ผ่านโครงการคนละครึ่ง ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจยังสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ และมั่นใจว่าการมาพบปะประชาชนในครั้งนี้ เป็นการแสดงพลังสามัคคีของพรรคอย่างชัดเจน

“การที่พรรคเพื่อไทยออกมา ระบุ ว่าการจัดโรดโชว์ของ พปชร.ในครั้งนี้ เพราะกลัวพรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ ยืนยันว่า พปชร. ไม่เคยกลัวการแลนด์สไลด์ของพรรคการเมืองใด สิ่งสำคัญคือเราจะทำอย่างไรให้ประชาชนรักเราที่สุด ไม่ใช้เทคนิคอะไรต่างๆ เรามั่นใจในการทำงาน ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ที่ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปดูแลประชาชน รวมถึง ชลบุรี และ เพชรบูรณ์ ก็จะเป็นแลนด์สไลด์ให้ดู” สันติ กล่าว 

สุชาติ ชมกลิ่น ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในพื้นที่ครั้งนี้ ไม่นับเป็นการคิกออฟทางการเมือง แต่เป็นการทำงานที่พร้อมมานานแล้ว เพียงแค่พรรคอื่นเคลื่อนไหวก่อน อย่างไรก็ตามขณะนี้ถือว่าเป็นการเริ่มนับถอยหลังทางการเมือง ที่เหลืออีกไม่กี่เดือนข้างหน้าและจะมีการเลือกตั้ง โดยในเดือนมีนาคม ปี 2566 ก็จะครบวาระการทำงานของพรรคการเมือง มีหน้าที่ต้องนำนโยบายต่างๆ เพื่อไปพบปะประชาชน 

ทั้งนี้ประชาชน ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมมาจากหลายภาคส่วนในพื้นที่ภาคตะวันออก ทั้งกลุ่มแรงงาน ทั้งมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่ สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง มาร่วมกว่า 300 คน รวมถึงประชาชน ที่มาต้อนรับและรับฟังการปราศรัยอย่างเนื่องแน่น เพราะนับเป็นการมาพบปะในพื้นที่แรก เพื่อนำเสนอนโยบายพรรค ที่จะเข้ามาช่วยเหลือดูแลประชาชน ซึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของพรรค ที่ประชาชนยังให้การสนับสนุน พปชร.อย่างมาก ซึ่งครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางมาพบปะพี่น้องประชาชนภาคตะวันออกด้วย 

ความพร้อมของพปชร. ในภาคตะวันออก มีส.ส. และว่าที่ส.ส. เกือบครบทุกเขตแล้ว คาดหวังว่าจะได้จำนวน ส.ส.80% ของภาคตะวันออก ที่พร้อมจะมาช่วยทำงานร่วมอุดมการณ์กับพรรค และต้องดำเนินตามยุทธศาสตร์ของพรรค ที่ส.ส. และว่าที่ผู้ส มัครส.ส. ลงพื้นที่ เพียงแค่จังหวัดระยองที่เรายังดูคนที่เหมาะสม ย้ำว่า ที่มาคิกออฟกิจกรรมโรดโชว์ที่จังหวัดชลบุรีเป็นที่แรกเพราะมี ส.ส.เยอะที่สุด และเนื่องจากชลบุรีเป็นเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ปัจจุบันจังหวัดสามารถสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมทางเศรษฐกิจให้กับประเทศสูงสุดเป็นอันดับสอง รองจากกรุงเทพมหานคร การจ้างแรงงานสูงสุดในประเทศไทย พรรคจึงต้องรับฟังสภาพปัญหาจากคนในพื้นที่เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดและภูมิภาคในทุกมิติ 

ทั้งนี้ ภายในงานได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดชลบุรี คนใหม่ 3 เขต ได้แก่ สุรพงษ์ นำชัยรุจิพงษ์ ว่าที่ผู้สมัครเขต 3 , สมเจตน์ เกตุวัตถา ว่าที่ผู้สมัครเขต 6 , รุ่งเพรช แจ่มเจริญ ว่าที่ผู้สมัครเขต 7 , มานพ ประกอบธรรม ว่าที่ผู้สมัครเขต 8 และส.ส.เดิมทั้งหมด 4 เขต จากทั้งหมด 8 เขต ได้แก่ สุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.เขต 1 ร.อ.จองชัย วงศ์ทรายทอง ส.ส.เขต 2 รณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.เขต 3 สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.เขต 4 โดยในการเลือกตั้งครั้งหน้าเขตจ.ชลบุรี จะมีเขตเลือกตั้งเพิ่มอีก2 เขต รวมเป็น 10 เขต