ไม่พบผลการค้นหา
'ประยุทธ์' ระบุไม่ได้สงวนเป็นนายกฯ ตลอดชาติตลอดชีวิต ขออย่ากังวลไม่เคยยึดติดอำนาจ ลั่นไม่ใช่ศัตรูใคร ถ้าอยากเลือกตั้งอย่าทำสภาล่ม ชี้วาระ 8 ปีเป็นเรื่องกฎหมาย​อยู่เท่าที่กฎหมายให้อยู่​ พร้อมสู้ทุกดอก ขอสื่ออย่าถามดักหน้าลุยนายกฯสมัย 3 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทน์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์สึนามิบ้านน้ำเค็ม จ.พังงา ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ว่า วันนี้เรื่องใดก็ตามที่ไม่สมควรความขัดแย้งทำแตกแยกสามัคคีขอให้ลดๆ ลงมาหน่อย เพื่อให้รัฐบาลและนายกฯ มีสมาธิทำงานเพื่อสานต่อ ส่วนที่บางคนถามว่ามีหลายอย่างที่ผ่านมาทำอะไรไปบ้างนั้น หลายอาจคนลืมไปในเรื่องปฏิรูปเชิงโครงสร้างกลไก วิธีการทำงานและหลักคิดใหม่ๆ เป็นสิ่งที่นายกฯ นำมาขับเคลื่อน อย่างไรก็ตามเราคือคนไทย ไม่ว่าอยู่บทบาทไหนก็ตามทุกคนต้องมุ่งให้ประเทศชาติและประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งวันนี้การเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน หากมัวแต่ว่ากันไปมาไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ดังนั้นอะไรที่จะช่วยได้เป็นความเข้าใจตรงกันหรือเตือนกันก็จะแก้ได้หมด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันอะไรมีปัญหาให้แจ้งมามีหลายช่องทางให้ร้องเรียน นายกฯหาวิธีการสั่งการกำกับดูแลทุกเรื่องทั้งด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง หรือปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน ถ้าไม่ได้เตรียมความพร้อม 4-5 ปีที่แล้ว วันนี้เราคงหนักกว่านี้ รวมทั้งวันนี้ต้องดูเรื่องงบประมาณอะไรต่างๆ นั่นคือเรื่องที่เป็นความเป็นความตายของประเทศและประชาชน จึงอย่าทำลายโอกาสด้อยค่าการทำงานที่ดีๆ ที่ไม่เหมาะสม แต่ตนว่าใครไม่ได้อยู่แล้ว แต่ห้ามความคิดใครไม่ได้และยินดีจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตราบใดที่ต้องทำอยู่ ขอบคุณทุกคน

ก่อนหมดวาระมีอะไรที่นายกฯ ต้องเร่งแก้ให้เสร็จหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คำว่าเร่งและเสร็จ การจะเสร็จต้องมีการวางแผนดำเนินการเป็นขั้นตอนอะไรเป็นความเร่งด่วนกลุ่มไหนมาก่อนมาหลัง ซึ่งคนเดอดร้อนที่สุดต้องได้รับการดูแลมากที่สุด วันนี้มีทั้งคนล้มแล้ว คนกำลังจะล้มทำอย่างไรต้องพยุงให้ได้ก่อน จึงมีมาตรการของรัฐออกมาเยอะแยะมากมายและใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่การหาเสียงแต่เป็นการทำเพื่อประชาชนจำเป็นก็ต้องทำ ไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามาก็ต้องทำแบบนี้ ทำด้วยความสุจริตใจปัญหาเกิดก็ต้องแก้ปล่อยหมักหมมไม่ได้อีกแล้วในหลายๆ เรื่อง ซึ่งนายกฯ ไม่เคยหยุดแก้ และจะทยอยออกมาเรื่อยๆ หากผลีพลามมากกระทบหมด และขออย่างเดียววันนี้ความรักความสามัคคีในประชาชน ถ้าเราไม่ร่วมกันมันก็แก้อะไรไม่ได้ทั้งหมดและเราคือคนไทยด้วยกันทั้งสิ้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตามเราไม่ใช่ศัตรูกันตนคิดแบบนี้ 

ขณะที่เรื่องความปรองดองที่หลายฝ่ายมองว่ายังไม่ถึงไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะไม่ถึงไหนได้อย่างไร สถานการณ์วันก่อนที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น มีการเคลื่อนไหวใช้อาวุธและตีกัน มันเกิดขึ้นหรือไม่ในขณะที่ตนอยู่ ซึ่งไม่มี แต่มีการประท้วงร้องเรียนอะไรต่างๆ จัดคณะทำงานและนำเข้าสู่ระบบในการแก้ปัญหา ดังนั้นจะบอกว่าไม่เกิดอะไรได้อย่างไร

"วันนี้ควรร่วมมือกันได้อย่างไรแก้ปัญหากันได้อย่างไร ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ผมไม่ต้องการให้คนไทยแบ่งเป็นฝ่ายใดทั้งสิ้น จะรักผมหรือไม่รักผม ชอบผมหรือไม่ชอบผม สิ่งเหล่านี้คืออันตรายที่สุด ท้ายที่สุดถ้าท่านไม่รักผมก็รักประเทศชาติของท่าน รักคนไทยเพื่อนพี่น้องร่วมชาติของท่าน นั่นคือสิ่งที่ทุกคนต้องคิดแบบที่ผมคิดนี่ ผมคิดมาแบบนี้ถึงอยู่ได้วันนี้ ก็เพราะผมมีเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นตรงนี้ของผม หลายคนก็เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของผมซึ่งผมก็ขอบคุณ และคิดว่าผมยังมีแรงที่จะทำตรงนี้ได้อยู่ บนพื้นฐานของความสงบเรียบร้อย ความมีเสถียรภาพของบ้านเมืองและการปฏิบัติตามกฎหมาย มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปัน ไม่มีการทุจริตไม่มีการเรียกผลประโยชน์ ผมยืนยันตรงนี้ว่าผมทำเต็มที่ในทุกเรื่อง"

ส่วนกรณีสภาล่มบ่อยครั้งขณะที่จะมีกฎหมายสำคัญ เข้าไปสู่การพิจารณานั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในโซเชียลก็เปิดดูสิว่ามีสมาชิกเข้าไปประชุมกี่คน และบางคนก็มาไม่ได้เพราะติดกับตัว แต่บางพรรคมาแล้วไม่ลงชื่อแบบนี้เป็นวิธีทางการเมืองหรือไม่ตนไม่รู้ ส่วนจะกระทบกฎหมายหรือไม่ ซึ่งตนก็อยากให้เสร็จให้เร็วตามกำหนดการที่กำหนดไว้แล้ว แต่จะไปสั่งได้หรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับบรรดาส.ส. สภาทั้ง 2 สภาฯ ดังนั้นทุกคนก็ต้องร่วมมือในการนำปัญหาและนำกฎหมายต่างๆเข้าสู่การพิจารณา ถ้าล่มอยู่แบบนี้ก็ไปไม่ได้

"จะบอกเป็นความรับผิดชอบของนายกฯ คนเดียวมันก็ไม่ใช่แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ว่าจะฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ทุกอย่างถ้าร่วมมือกันไปได้หมด ทุกคนอยากเลือกตั้งไหมล่ะ ถ้าอยากเลือกตั้งกฎหมายลูกก็ต้องทำให้เสร็จการทำให้เสร็จก็ต้องมีการประชุมสภา สภาก็ต้องไม่ล่ม กฎหมายของรัฐบาลที่ออกไปเพื่อประโยชน์ของประชาชน ก็ต้องผ่านให้ได้ ถ้าทุกอย่างรวนไปทั้งหมดก็แก้อะไรไม่ได้ กลับไปที่เดิมหมดไปสู่ความวุ่นวายมหาศาลเกิดขึ้นมันมีบทเรียนมาแล้วทุกเรื่องเหมือนสึนามิ"

ทั้งนี้ มีโอกาสที่นายกฯ ไปเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ตอบอะไรทั้งนั้น มีปัญหาอะไรเหรอ เมื่อถามย้ำว่าแต่นายกไม่ได้ปฏิเสธหรือปิดช่องใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "อะไรที่ไม่จำเป็นผมก็ยังไม่ต้องพูด เป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจของผมเอง" เมื่อถามต่อว่าจะตัดสินใจร่วมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่รู้จะตอบอย่างไร คุณก็ไปคุยสิ"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้การสร้างความรับรู้ทางสังคมกับประชาชนเปลี่ยนไปจากเดิมคุยกันปากต่อปาก แต่วันนี้โทรศัพท์มีการสร้างความขัดแย้งสร้างความไม่เข้าใจกว่า 80% อันไหนไม่เป็นประโยชน์ไม่รู้จะอ่านไปทำไม อะไรพูดมาแล้วเชื่อถือไม่ได้บางคนเครดิตไม่ควรจะพูดอะไรออกมาแล้วก็ไปเผยแพร่ให้เขาอยู่แบบนี้แล้วจะจบหรือไม่บ้านเมือง ย้ำว่าบ้านเมืองต้องการความสงบสุข ความรักและความสามัคคี 

"ไม่จำเป็นและไม่ใช่ว่าผมต้องสงวนเป็นนายกฯ ตลอดชาติตลอดชีวิตผมเสียเมื่อไหร่ ผมก็ทำเท่าที่ผมทำได้นั่นแหละ ไม่ต้องมากังวลว่าผมอยากจะมีอำนาจต่อไป ผมมีอำนาจเพื่ออะไรเพื่อผมประโยชน์หรอผมยืนยัน ไม่เคยมีผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้นอยู่มา 7-8 ปี"

อย่างไรก็ตาม วันนี้มีการเตะถ่วงการทำงานของรัฐบาล หรือไม่ ว่า ไม่มีอะไรถ่วงตนได้อยู่แล้ว ถ้าเค้าดึงไว้ตนก็จะทำงานหนักขึ้นเป็น 2-3 เท่า ตนไม่เอาสิ่งนี้มาเป็นภาระที่จะนั่งสู้เสียเวลา ทั้งนี้คนที่ทำหน้าที่อยู่แล้วก็ทำไป ส่วนหน้าที่ของตนคือการบริหารบ้านเมืองให้ดีที่สุด นี่คือเจตนารมณ์ความมุ่งมั่นของตน อะไรที่จะทำให้มีปัญหาตนก็ไม่รับมา ทั้งนี้กลไกมีอยู่แล้ว ทำไมจะต้องนายกฯทุกเรื่อง

ส่วนวันนี้ นายกรัฐมนตรี รู้สึกเบื่อการเมืองวันนี้หรือไม่ ว่า อย่าถามคำว่าเบื่อหรือไม่เบื่อ แต่ตนเบื่อประเทศไทยไม่ได้ เบื่อกับปัญหาไม่ได้เพราะต้องแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะมาอย่างไรตนสู้ทุกดอก สู้กับปัญหาไม่ใช่สู้กับคน และตนไม่ได้เป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น ต่างคนต่างมีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่สภาการประชุม การผ่านกฎหมาย หากทุกอย่างดึงมาสู่การเมืองทั้งหมดอะไรจะเกิดขึ้น บ้านเมืองประเทศชาติจะดีขึ้นหรือไม่ ขอให้ย้อนคิดกลับไปจะรู้ว่าเป็นอย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวถึง​การวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ 8​ ปี​ ว่า​ ทั้งหมดเป็นเรื่องของกฎหมาย​ ​ตนเองก็จะอยู่เท่าที่กฎหมายให้อยู่​ อยู่ได้ถึงเมื่อไหร่ก็แค่นั้น​ กฎหมายมีกำหนดไว้อยู่แล้ว​ ตนเองไม่สามารถ​พิจารณา​เองได้อยู่แล้ว

ส่วนตั้งใจที่จะลุยต่อในสมัยหน้า​ เป็นนายกรัฐมนตรี​ 3 สมัย​ เพื่อทำงานทางการเมืองต่อหรือไม่นั้น​ พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวว่า​ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์วันหน้าอย่าเพิ่งถามดักหน้า​ วันนี้ยังไม่มีอะไรทั้งสิ้น​ ก็อยู่ไปตามหน้าที่​ ที่มีอยู่ไปก่อน​ วันหน้าก็คือเรื่องของวันหน้า​ อยากถามให้นายกฯ​ ต้องมาตอบ​ แล้วเอาคำพูดวันนี้แบบนี้​ ทำให้วันต่อไปอื่นพูดแบบอื่นไม่ได้อีกแล้ว​ 

"ผมไม่ตอบคุณอีกแล้ว​ คำถามที่ไม่มีวันจบ​ เหมือนเพลงที่แต่งแล้วไม่มีวันจบ​ ถามวนอยู่นั่น​ พูดกลับไปกลับมา​ แต่นายกฯ​ยังจำได้อยู่​ สมองยังดี​ จึงจำได้ว่าถามมา​ ​50 ครั้งแล้ว​ ก็ตอบเหมือนเดิม"

จากนั้น​ ผู้สื่อข่าวได้บอกว่าแดดร้อนแล้ว นายกฯ​ จึงหันมาพูดว่า​ "กลัวแดดเหรอ​" พร้อมยังชี้ไปที่หน้าอก​ ว่า​ ร้อนใจมากกว่า​ ประชาชนเขาร้อนใจ​ เขาเดือดร้อน​ นายกฯ​ ก็ร้อนใจแบบเขา​ ลาก่อนเดินเข้าตึกได้หันมาพูดอีกว่า ​"กลัวอะไรกับแดด"