วันที่ 12 มี.ค. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี เป็นการใช้งบประมาณจำนวนมาก ว่า งบปีนี้ล่าช้า ช่วงกลางเดือนเมษายน ถึงจะได้ใช้งบในปีนี้ แล้วจะมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้งบประมาณมากได้อย่างไร การเดินทางไปต่างประเทศเป็นมิติใหม่ของนายกฯ ที่ไปเปิดงาน เปิดประเด็น ให้เห็นแนวคิดการปรับเปลี่ยน ให้เกิดการรับรู้ การสร้างงานต่าง ๆ นำการลงทุนเข้ามาในประเทศไทย ตนเองมองว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เช่นเดียวกับการทำงานของรัฐมนตรี ถ้านั่งอยู่กับที่อย่างเดียว ไม่นำอะไรใหม่ ๆ เข้ามา ประเทศก็จะอยู่กับที่ เพราะไม่สามารถขยายเม็ดเงินลงทุนได้ ถ้านายกฯ ไม่เปิดแนวให้มาก แล้วจะนำเงินเข้าประเทศ เพื่อพัฒนาประเทศอย่างไร ถ้าทำงานครบ 4 ปี จะมีข้อมูลมากมาย พร้อมมองว่า เรื่องค่าใช้จ่ายที่เสียไปเป็นเรื่องเล็กมาก ถ้าเทียบกับผลที่จะได้รับ

ส่วนเรื่องผ้าขาวม้าที่นายกรัฐมนตรีนำมาพัรคอนนั้น นายสมศักดิ์ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีไปต่างจังหวัด ประชาชนในพื้นที่ก็มีของฝาก ก็แสดงว่าท่านนึกถึงพี่น้องประชาชน ถึงตัวจะอยู่ต่างประเทศไปทำงาน แต่ใจก็อยู่กับชาวบ้าน ถือเป็นจุดแข็งอย่างหนึ่ง และจะได้มีเรื่องกลับมาพูดกับประชาขน ว่าไปก็ไม่ลืม เพราะมีผ้าขาวม้าติดตัวไป

ส่วนที่ เสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา เผยถึงความพร้อมในการอภิปรายของ สว. และภาวนาให้นายกรัฐมนตรีอยู่ถึงวันที่ 25 มี.ค. นี้นั้น นายสมศักดิ์ ระบุว่า ถ้ามองแค่วันที่ 25 มี.ค. นี้ ก็ผ่านชนะแล้ว เป็นเรื่องของวาทกรรมที่พูดเพื่อให้ดูน่าสนใจ เราอย่าไปถือสา เพราะการนำเสนอพูดคุย ต้องทำให้เป็นสิ่งที่น่าสนใจของการอภิปรายที่ไม่ลงมติของ สว. อย่าไปเน้น เพราะมันเป็นไปไม่ได้ ซึ่งวันที่ 25 มี.ค. จะถึงอยู่แล้ว อีกไม่กี่วัน และท่านก็ไม่ใช่หมอดูด้วย

สำหรับกระแสวิพากย์วิจารณ์ว่าการกลับมาของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะใช้โมเดลเดียวกันกับ ทักษิณ ชินวัตร นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังอีกไกล แนวทางการนิรโทษกรรมเพิ่งเริ่ม เพราะมีการคุยกันไปเมื่อครั้งที่แล้ว การกลับมานั้น ก็มีกติกา รูปแบบ ทั้งแนวทางการขอพระราชทานอภัยโทษ ดังนั้น ยังอีกไกลเกินกว่าจะมาพูด ขออย่าเอาเรื่องนี้มาพูด ถ้าลงรายละเอียดแล้ว ไม่ใช่แน่นอน

ส่วนการเดินทางไปที่จังหวัดเชียงใหม่ ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น จะสร้างความสับสนให้ประชาชนว่ามีผู้นำ 3 คนหรือไม่ สมศักดิ์ กล่าวว่า นายกฯ เศรษฐา มีเครื่องมือการทำงานในฐานะนายกฯ มีกฎหมายรองรับ และการพบกันที่ไหน ไม่ใช่ประเด็น เพราะนายเศรษฐา จะพบนายทักษิณเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นจังหวัดเชียงใหม่ และไม่ผิดกฎหมายอะไร หากจะพบกัน ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่จากที่ดู ก็ไม่มีกำหนดการจะพบกัน