วันที่ 22 ม.ค. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือประมงระนอง - เกาะสอง เพื่อพูดคุยประเด็นการค้าผ่านแดน แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมง รวมถึงจะพบปะประชาชนกลุ่มประมงและกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป
เมื่อนายกรัฐมนตรี มาถึงได้มีตัวแทนจากองค์การสะพานปลา มาต้อนรับ จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงการแก้ไขปัญหาประชาชนที่ไม่มีสิทธิทางทะเบียนหรือบัตรประชาชน ซึ่งมาจากกลุ่มคนไทยผลัดถิ่น มุสลิมชาวเมียนมา ชาวมาเลย์
ขณะเดียวกันมีประชาชน ที่มารอมอบดอกไม้ให้กำลังใจ พร้อมถือป้ายชาวปากน้ำระนอง ยินดีต้อนรับนายกรัฐมนตรี และมอบผ้าขาวม้า ขอจับมือ พร้อมบอกรักนายกฯ ขอให้นายกอยู่ให้ครบ 4 ปี และกล่าวแซวกับนายกฯว่า ชาวระนองสวยทุกคน ก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะกล่าวตอบกลับว่า เชื่อครับพร้อมชี้ที่ อนุทิน ซึ่งมีภริยาเป็นคนจังหวัดระนอง
นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านเจ้าของแพปลา นำรูปถ่ายคู่กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมท่าเทียบเรือแห่งนี้ พร้อมกับยังกล่าวกับนายกรัฐมนตรี ว่า รู้สึกดีใจ ที่ได้นายกฯเป็นคนที่ 2
จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวกับข้าราชการในพื้นที่และประชาชน ว่า ตนดีใจที่ได้มาระนองครั้งแรกในรอบ 40 ปี ซาบซึ้งถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่น จากพี่น้องชาวระนองและความจริงใจจากชาวใต้ที่มีให้กับพวกเรา แม้ระนองจะเป็นจังหวัดเล็ก แต่รัฐบาลให้ความสำคัญ ความจริงใจความอบอุ่นที่เราได้รับในวันนี้จะประทับใจไปโดยไม่รู้ลืม จริงๆแล้ว ครม.เครือญาติกันเนื่องจากรองนายกฯ เองก็เป็นเขยที่นี่ คุณจ๋ามีรอยยิ้มที่หวานที่จริงใจ อย่างไรก็มัดใจ อนุทินได้ เห็นได้ถึงความจริงใจ
จากการรับฟังการรายงานท่าเทียบเรือ มีในหลายมิติรัฐบาลนี้ยินดีสนับสนุนการปรับ ท่าเรือตรงนี้ให้มีการยกระดับมาตรฐานขึ้นมาสูงขึ้น เนื่องจากคำนึงถึงการค้าชายแดนการเดินทางระหว่างนักท่องเที่ยวที่มาจากเมียนมารวมไปถึงการทำงานซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม การที่เราจะปรับปรุงแต่ท่าเรืออย่างเดียวไม่ได้ตอบโจทย์ทั้งหมด แต่การที่มีการขนส่งสินค้า ทั้งขาเข้าและขาออก เรื่องที่สำคัญคือผู้ประกอบการต้องการความสะดวกสบายต้องการ One Stop Service ไม่ต้องเสียเวลา ซึ่งถือเป็นนโยบายของรัฐบาลนี้ที่จะทำให้ท่าเรือระนองแห่งนี้มีความทันสมัย และมีความสะดวกสบายในการใช้ ซึ่งตนยืนยันว่าจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไม่ใช่แค่การทำให้ท่าเรือนี้ดีขึ้น และเรื่องการประมงถือเป็นเรื่องสำคัญการแก้ไขปัญหา IUU ก็สำเร็จไม่ได้เปราะหนึ่งแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าทำให้ปลดล็อคให้คนไทยไปค้าขายได้อย่างดีขึ้น
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินตรวจเยี่ยมถ้าเทียบเรือ ก่อนเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านจ่าจ้า คอฟฟี่ ซึ่งเป็นร้านของภริยารองนายกฯอนุทิน