วันที่ 2 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่ตรวจราชการจ.อุดรธานีและหนองบัวลำภู พื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดอุดรธานี) เกษตรอุตสาหกรรมชั้นนํา ศูนย์กลางการค้าและโลจิสติกส์ การท่องเที่ยวมาตรฐานสากล และเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน” โดยออกเดินทางโดยเครื่องบิน Airbus ของกองทัพอากาศ จากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯไปยังท่าอากาศทหาร กองบิน 23 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี 

มีรายงานว่า ก่อนที่คณะของ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดโครงการสัมมนา “บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน” ที่สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย จัดขึ้นที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) ตำบลสามพร้าว อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ได้มีกลุ่มร้องเรียนเรื่องเหมืองโปรแตช ประมาณ​ 10-20 คน​ จะเดินทางมาร้องเรียนตรงกับนายกฯ บริเวณงาน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สกัดพาไปยังศูนย์ดำรงธรรม โดยให้รองผู้ว่าราชการอุดรธานี เป็นตัวแทนรับหนังสือ โดยไม่ให้เข้ามาบริเวณงานนายกฯ ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมือง เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหว

สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยบริเวณงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจสกัดอย่างเข้มงวด คอยตรวจรถที่จะผ่านบริเวณงาน

ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกฯ เดินทางมาร่วมพิธีเปิดโครงการสัมมนา “บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน” ที่สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย (สมาคม อบต.) จัดขึ้น โดยมีข้าราชการ ผู้นำ อบต.จากทั่วประเทศ ร่วมงาน นอกจากนี้นายกฯ มีการพบปะประชาชนจังหวัดอุดรฯ และจังหวัดใกล้เคียง ที่มารอต้อนรับด้วย 

ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงงานได้เดินทักทาย ผู้นำสมาคม อบต. ข้าราชการในพื้นที่ รวมถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรฯ พร้อมร่วมฟัง ผู้นำ อบต.ทั่วประเทศ ร่วมกันกล่าวคำปฎิญาณตน ว่าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัติย์ รวมทั้งจะทำงานเพื่อประชาชนด้วยความเที่ยงธรรมสุจริต

ขณะที่ วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย ช่วงหนึ่งระหว่างกล่าวรายงาน ได้เผยความในใจ ว่า ตนปลื้มและดีใจมากที่นายกฯ เดินทางมาเปิดงาน และตลอดเวลาที่ตนเป็นนายกฯ อบต. มา 20 ปี ไม่เคยมีนายกฯ คนไหนมาเป็นประธานงานสมาคม อบต.เลย ซึ่งการทำงานของสมาคม อบต.เพื่อเสนองานต่างๆช่วยลดภาระรัฐบาล และมองว่าการที่นายกฯ ร่วมงานวันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นกำลังวใจให้นายกฯ ในการสานงานต่อให้ประสบความสำเร็จ

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ปฐกถาพิเศษเรื่อง "บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน” โดยช่วงเริ่มต้นกล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มาจากทั่วประเทศเพื่อเจอกัน ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญเพราะเราต้องทำงานร่วมกัน ตนดีใจที่พูดครั้งนี้เปรียบเสมือนพูดกับประชาชน 70 ล้านคนไปด้วยกัน โดยตนถือว่าการบริหารราชการแผ่นดินต้องทำให้เดินหน้าไปเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาเราผ่านปัญหามาด้วยกัน อาทิ โควิด พร้อมบอกว่าวันนี้ขอพูดในนามนายกฯ เพราะการจะพูดอะไรทียากเหลือเกิน 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ถึงแม้ตนจะอยู่ระดับบน แต่ตนให้ความสำคัญกับ อบต.เพราะใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด ฉะนั้นก็ต้องทำเพื่อประชาชนให้ดีที่สุด พร้อมบอกว่าอุดรฯ เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพอีกแห่งหนึ่ง ฉะนั้นทุกจังหวัดก็ต้องพัฒนาทุกเรื่อง โดยตนก็พยายามขับเคลื่อนประเทศในลักษณะนี้ ลดความขัดแย้งและเดินหน้าประเทศให้ดีที่สุด ซึ่งในส่วนของรถไฟความเร็วสูงก็ขอให้อดทนนิดนึง า่วนรวมทาวก่วนโคราชก็จะพยายาม พร้อมย้ำว่าตนจะไม่ขัดแย้งใครทั้งสิ้น

ทั้งนี้ ตนคิดว่าวันนี้หลายจังหวัดดีขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พร้อมคาดหวังว่าจะเจริญทุกจังหวัดซึ่งต้องพึ่งพาอาศัยกัน เพราะความคิดของตนและโลก เศรษฐกิจต้องครอบคลุมกัน จะมุ่งหวังเพียงส่งออกอย่างเดียวมันจะมีปัญหา แต่เราต้องเพิ่มการบริโภคในประเทศให้มากขึ้นซึ่งตนได้สั่งการไปแล้ว เพราะหากยังใช้ต้นทุนการผลิตที่แพงของมันก็จะแพงขึ้นเรื่อยๆ 

พร้อมบอกว่า ตนไม่อยากให้เรียกท้องถิ่น คือรากหญ้าเพราะทุกคนคือฐานรากของประเทศ ฉะนั้นเราต้องสร้างเครือข่ายเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและดำเนินงานไปด้วยกัน ซึ่งอะไรทำได้ตนทำให้อยู่แล้ว พร้อมเผยว่า การเป็นรัฐบาลมันไม่ง่าย และตนไม่ได้เก่งกาจอะไร แต่มันต้องทำงานไปพร้อมกัน ฉะนั้นสิ่งสำคัญเราต้องดูแลประชาชนในพื้นที่ให้ดีที่สุด โดยตนก็พร้อมรับทุกเรื่อง 

ส่วนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่ใช่ตนจะอยู่ 20 ปี แต่มันเป็นแผนแม่บท พร้อมขอไม่ต้องกังวลกับประเทศไทยถ้าทำตามยุทธศาสตร์ชาติ แต่ทุกอย่างต้องทำตามกฎหมาย ทำให้ถูก อย่าทำเพื่อใคร และย้ำว่าตนพร้อมให้ทุกเรื่องแต่ต้องไม่ผิดกฎหมาย และระบุอีกว่า บางครั้งเราไม่เห็นคนอื่น ฉะนั้นเราต้องเปิดใจ เปิดหูและมองประเทศไทยให้กว้าง

ช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ลักษณะประเทศไทยเป็นครอบครัว เราแตกกันไม่ได้ ซึ่งเคยมีข่าวว่าจะยุบท้องถิ่น ใครพูดตนไม่รู้แต่ตนไม่ได้พูด

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ประกาศว่า ขณะนี้ได้มีการปรับค่าตอบแทนผู้นำ อบต.แล้ว โดยคาดว่าจะลงราชกิจฯ สัปดาห์หน้า พร้อมย้ำว่าไม่ได้มาหาเสียง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำมานานแล้ว แต่มาประกาศช่วงนี้ และจะมีการปรับสวัสดิการในเร็วๆนี้ พร้อมย้ำว่าตนไม่ได้มาหาเสียง แต่มันเป็นสิ่งที่ทำมาแล้ว ซึ่งก็จะพยายามทำให้เร็ว เพราะสิ่งพวกนี้มันเป็นสิ่งที่ทำมาแล้วและต้องทำต่อ พร้อมเผยว่า ช่วงนี้นายกฯ มีความสุข ซึ่งวันนี้เราต้องเริ่มความขัดแย้งไปได้แล้ว และเราต้องมาช่วยกัน

แจงขึ้นค่าตอบแทน อบต.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์ภายหลังประกาศขึ้นค่าตอบแทน อบต. ในงานสัมมนา อบต.ทั่วประเทศ ว่า เขาได้รับการพิจารณาจากทางกระทรวงมหาดไทย มาแล้ว

เมื่อถามว่า หากประกาศในราชกิจจาฯ จะมีผลสิ้นเดือน มี.ค.เลยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ก็มีผล ซึ่งเป็นการใช้งบของ อบต.เขา

เมื่อถามว่า แต่ละ อบต. จะไม่ได้เท่ากันใช่หรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับรายได้ของแต่ละแห่งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า อันนี้เดี๋ยวเขากำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งรายละเอียดตนไม่ทราบ รู้แต่เพียงหลักการ

เมื่อถามว่า การขึ้นค่าตอบแทน อบต.จะถูกมองว่าเป็นการหาเสียงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "คุณมองยังไง ก็ไปอย่างนั้น แล้วแต่คุณจะมอง แต่มันเป็นเรื่องการทำงานปกติของรัฐบาล"

เมื่อถามว่า การยกระดับ อบต. เป็นเทศบาลจะทำได้เมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เร็วๆนี้ 

เมื่อถามต่อว่า ต่อไปจะไม่มี อบต.แล้ว จะเป็นเทศบาลทั้งหมดเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ใช่ตนพูดไปแล้วไง ก็ อบต.ยกสถานะที่เทศบาล พร้อมยืนยันว่ายกระดับทั้งหมด