การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ใช้ห้องประชุมจันทราเป็นวันที่ 2 โดยภาพรวมแล้วยังคงสามารถดำเนินการประชุมได้ตามปกติ มีการเปิดให้หารือปัญหาความเดือดร้อนประชาชน ซึ่งมีสมาชิกบางคน อาทิ นายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส. เชียงราย พรรคอนาคตใหม่ หารือถึงค่าฝุ่นละอองในห้องประชุม ว่าควรเปิดเผยค่าฝุ่นปูนและสารโลหะด้วย เพื่อให้สมาชิกเตรียมตัวดูแลสุขภาพของตนเอง และให้ข้อมูลกับกลุ่มผู้มีความเสี่ยง ทั้งผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่ตั้งครรภ์ด้วย และขอให้ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับแพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย หารือถึงสมาชิกมีอาการง่วงและระคายเคืองที่ตา
ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้ชี้แจงยอมรับว่า ฝุ่นก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง แต่เรื่องสีก็น่าจะมีผลกระทบที่สมาชิกผ่านการหายใจ ทำให้เกิดอาการจามและแสบตา แต่ด้วยความจำเป็นต้องใช้สถานที่ จึงแนะนำให้สมาชิกใส่หน้ากากอนามัยขณะประชุม ซึ่งในขณะที่ประชุมสมาชิกหลายคนก็ใส่หน้ากากอนามัยขณะเข้าร่วมประชุม
ก่อนหน้านี้ นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงเกี่ยวกับกรณีฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เกิดขึ้นบริเวณรัฐสภาใหม่ ขณะที่สมาชิกหลายคนมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ และต้องสวมใส่หน้ากากเพื่อป้องกันฝุ่น ว่าทางรัฐสภาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องของสุขภาพสมาชิกสภา สื่อมวลชน รวมถึงผู้ที่มาร้องเรียน เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และระบบทางเดินหายใจ
เมื่อวานนี้ (7 ส.ค.) จึงมีการเชิญ กรมควบคุมมลพิษ และกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเข้ามาดูแล พร้อมติดตั้งเครื่องตรวจจับเครื่อง PM 2.5 ในห้องประชุมจันทรา จากการตรวจจับ 3 ครั้ง พบว่า
พร้อมกับย้ำว่ารัฐสภาปลอดภัยจากฝุ่น ส่วนประเด็นที่สมาชิกหลายคนมีอาการ แสบจมูก แสบตา เจ็บคอ อาจเป็นเพราะกลิ่นสี จากสิ่งก่อสร้างที่ยังไม่เสร็จ ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งนี้ ได้มีการนำหน้ากากมาวางไว้บริเวณหน้าห้องประชุม เพื่ออำนวยความสะดวกแล้ว
เมื่อถูกถามว่ามีมาตรการในการรับมือกับอุบัติเหตุ และได้มีการเตรียมความพร้อมหากเกิดเพลิงไหม้หรือไม่ นพ.สุกิจ ตอบว่า มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบดูแลอยู่ เพราะอยู่มาก่อนหน้านี้เป็นเดือน ยังไม่มีรายงานเรื่องอุบัติเหตุ ส่วนเรื่องเพลิงไหม้ เชื่อว่า “คงไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น”