เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้าเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวการขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปราบปรามยาเสพติดเชิงรุกของรัฐบาล ในพื้นที่สีแดง มีการแพร่ระบาดชายแดนอีสาน โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย ส.ส.เดือน มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะ ส.ส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย ได้นำคณะ ร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานมั่นคง ทั้งระดับประเทศ ระดับจังหวัด เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อวางมาตรการเชิงรุกในการปราบปราม สกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนจริงจัง ทั้งปราบปรามจับกุม ขยายผล ถึงนายทุน รวมถึงคัดกรองค้นหา ผู้เสพ ผู้ค้า รายย่อย และรายใหญ่ รวมถึงปราบปรามจับกุม เจ้าหน้าที่รัฐที่พัวพันเกี่ยวข้อง ดำเนินคดีถึงที่สุด สำหรับพื้นที่ จ.นครพนม ในรอบปีที่ผ่านมามีการ ดำเนินคดียาเสพติดมากกว่า 4,600 คดี ผู้ต้องหากว่า 4,600 คน ยึดยาบ้ากว่า 12 ล้านเม็ด ยาไอซ์ กว่า 700 กิโลกรัม 

ล่าสุดยังไม่ทันข้ามคืน ทางด้าน พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชด.23 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าว ตชด. 23 ร่วมกับ ตชด.237 อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม สามารถสืบสวนติดตามจับกุม ขบวนการค้ายาบ้า ได้อีก 2 ราย เมื่อกลางดึกวันที่ 11 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา มี บดินทร์ อยู่สำราญ อายุ 29 ปี ชาว อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร รวมถึง ประมาณ อัศราวุฒิ อายุ 29 ปี ชาว อ.เมืองสกลนคร ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 310,000 เม็ด ขณะขับรถยนต์ มารับในพื้นที่ ชายแดนริมฝั่งน้ำโขง ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม หลังมีขบวนการค้ายาบ้าลักลอบนำข้ามมาจาก สปป.ลาว เพื่อส่งต่อขายในพื้นที่อีสาน ผู้ต้องหาสารภาพร่วมกันรับจ้างนายทุนเป็นเงิน 1 แสนบาท อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล ติดตามจับกุมเครือข่ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะ สส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในการทำงานของรัฐบาลไม่เพียงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว การคมนาคม ขนส่ง และแก้ปัญหาราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำเท่านั้น ที่จำเป็นเร่งด่วนต้องแก้ไข ตนในฐานะผู้แทนในพื้นที่ ไม่เพียงดูแลทำงานอาสารับใช้พี่น้องประชาชน รวมถึงทำงานในกระทรวงคมนาคม สิ่งสำคัญปัญหาพื้นฐานของ จ.นครพนม จะต้องได้รับการแก้ไขเร่งด่วน คือ ปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด เนื่องจากเป็นพื้นที่ชายแดน ติด สปป.ลาว ที่มีการลักลอบนำเข้ายาบ้า จำนวนมากต่อเนื่อง ติดอันดับต้นของประเทศ ตรวจยึดยาบ้าปีละหลาย 10 ล้านเม็ด โดยจากข้อมูลการตรวจยึดจับกุม ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่สีแดงอำเภอชายแดน มีการลักลอบขนซ้ำแล้วซ้ำอีก และใช้เส้นทางรอง มากกว่าเส้นทางหลัก ในการลำเลียงขนส่ง จึงได้เสนอให้จังหวัดนครพนม เป็นพื้นที่พิเศษต้นแบบ นำร่องแก้ปัญหายาเสพติดจริงจัง เน้นสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐเอกชน รวมถึงประชาชน ตั้งแต่ปัญหาปราบปรามขบวนการค้า ขยายผลสู่นายทุน รวมถึงผู้ค้ารายย่อย รายใหญ่ คัดกรองผู้เสพ ทุกชุมชนหมู่บ้าน สำคัญที่สุดจะต้องปราบปรามจริงจัง เกี่ยวกับ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง ที่พัวพันยาเสพติด เพื่อตัดวงจร เป็นการแก้ไขปัญหาถาวร เชื่อว่าหากทุกคนไม่เพิกเฉยทำงานจริงจัง นครพนม จะต้องเป็นจังหวัดสีขาว ชุมชนเข้มแข็งปลอดยาเสพติด อย่างแน่นอน ส่งผลดีต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจการท่องเที่ยว ในอนาคต