นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.เปิดเผยหลังมีการออกประกาศนิรโทษกัญชาทั่วประเทศซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมาว่า มีการสอบถามข้อมูลเข้ามายังสายด่วน อย. ประมาณ 848 สาย มีผู้ที่เข้ามาสอบถามข้อมูลกับทาง อย. โดยตรงประมาณ 30 รายและมีผู้ป่วยเข้ามาแจ้งความประสงค์ขอครอบครอง 4 ราย ซึ่งภาพรวมถือว่าประชาชนให้ความสนใจซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ หรือการวิจัยทางการแพทย์ และยังได้เห็นสภาพและปริมาณว่าขณะนี้มีการใช้กัญชาทางการแพทย์นอกระบบเพื่อจะได้เตรียมระบบการรองรับตามกฎหมาย

สำหรับบุคคลที่มีสิทธิในการแจ้งการมีไว้ในครอบครองกัญชา ประกอบด้วยกลุ่มที่เป็นหน่วยงานภาครัฐ มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาเอกชน ผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตรวิสาหกิจเพื่อสังคม หรือผู้โดยสารระหว่างประเทศ เป็นต้น

อีกกลุ่มคือ กลุ่มผู้ป่วยที่ต้องมีใบรับรองแพทย์สำหรับการรักษาโรคกลุ่มสุดท้าย กฎหมายใช้คำว่าบุคคลอื่น ซึ่งสามารถเข้ามาแจ้งความประสงค์ที่ต้องมีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์เท่านั้น เมื่อแจ้งแล้วให้กัญชานั้นตกเป็นของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำไปทำลายหรือใช้ประโยชน์โดยบุคคลที่มีสิทธิในการแจ้งการมีไว้ในครอบครองสามารถดำเนินการได้ถึงวันที่ 19 พ.ค. ซึ่งคงไม่มีการขยายระยะเวลาออกไป

เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ภาคส่วนต่างๆ ได้เตรียมการในเรื่องของการขึ้นทะเบียนขออนุญาตปลูกและผลิตกัญชาเป็นยาหรือทำการวิจัยเพื่อกำหนดว่าโรคใดบ้างที่สามารถใช้สารจากกัญชาทำการรักษาได้เพิ่มเติมจากที่กรมการแพทยืกำหนดไว้ แต่จะต้องย้ำเตือนว่า ขณะนี้เป็นเรื่องของการคลายล็อกให้สามารถนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น ไม่ได้อนุญาตให้มีการปลูกอย่างเสรีผู้ที่มีความประสงค์จะปลูก จะต้องรวมกลุ่มดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• อภ.เริ่มปลูกกัญชาตามกฎหมาย ก.ค.นี้ 'ได้ใช้จริง' - ผู้ใช้แนะเลิกทัศนคติรังเกียจกัญชา