ผู้บริการระดับสูงของอาลีบาบาวิจารณ์การปฏิบัติของรับบาลสหรัฐฯต่อบริษัทโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสัญชาติจีนอย่างหัวเว่ย ว่า "มีความอยุติธรรมสูง" ในการไม่อนุญาตให้บริษัทเข้าถึงตลาดการค้าอย่างเสรี พร้อมบอกว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ "ได้รับแรงจูงใจจากการเมืองอย่างสูง"

โจ ไซ รองประธานผู้บริหารระดับสูงของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซอย่างอาลีบาบา กล่าวว่าการกระทำของสหรัฐฯส่อให้เห็นความพยายามในการหยุดการเติบโตของจีนด้วยการใช้สงครามการค้าเป็นเครื่องมือ อย่างไรก็ตาม นายไซ ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของเศรษฐกิจจีน โดยย้ำว่าจีนยังมีโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแรงแม้จะมีการชะลอตัวไปบ้าง และเสริมว่ามาตรการอาทิ การลดภาษี ควรมีการกำหนดใช้เพื่อค้ำยันเศรษฐกิจ

หัวเว่ย บริษัทด้านโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกกล่าวหาจากรัฐบาลของทรัมป์ว่ามีความพยายามในการเป็นสปายให้กับรัฐบาลจีน ซึ่งหัวเว่ยได้ออกมาปฏิเสธหลายครั้ง โดยขณะนี้ สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ออกกฏหมายห้ามให้สินค้าของหัวเว่ยขายในประเทศของตน ส่วนแคนาดาและสหราชอาณาจักรกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา

"ผมคิดว่าสิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯและพันธมิตรอีก 4 ประเทศ ทำกับหัวเว่ยไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่ ต้องมีความพยายามด้านการเมืองซ่อนอยู่แน่นอน" ไซ กล่าว

ไซ ในฐานะที่ถือหนังสือเดินทางของประเทศแคนาดากล่าวว่า เขาหวังว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศจะดีขึ้นหลังมีกระแสเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่ นาง เมิ่งหว่านโจว โดนจับกุมตัวที่สนามบินเมืองดทรอนโต ประเทศแคนา พร้อมย้ำว่า "ผมรักคนแคนาดา พวกเขายอดเยี่ยม" ส่วนในกรณีของการจับกุมตัวนั้น มองว่าเป็น "ปัญหาการต่อต้านจีน"

อ้างอิง; Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง;

• 'จีน' เตือน 'สหรัฐฯ-แคนาดา'ต้องรับผิดชอบหากส่งตัวผู้บริหารหัวเว่ยให้สหรัฐฯ