ทนายความของ 'เมิ่งหว่านโจว' หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) และรองประธานของบริษัทหัวเว่ย ดำเนินการฟ้องร้องรัฐบาลแคนาดา หลังเมิ่งจับกุมตัวที่แคนาดาตามคำร้องของทางการสหรัฐฯ เมื่อเดือนธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ศาลแคนาดาตั้งข้อหาว่าเมิ่งหว่านโจวมีพฤติกรรมฉ้อโกงด้วยการตั้งบริษัทสกายคอม ซึ่งเป็นบริษัทลูกของหัวเว่ย ขึ้นมาบังหน้าเพื่อทำธุรกิจกับอิหร่านในช่วงปี 2552 ถึงปี 2557 เข้าข่ายละเมิดมติคว่ำบาตรอิหร่านของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ทำให้เมิ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2561
อย่างไรก็ตาม เมิ่งตัดสินใจฟ้องรัฐบาลแคนาดากลับในข้อหา "ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง" โดยรัฐบาลจีนออกมาโต้ตอบด้วยว่าการจับกุมและการส่งตัวเธอในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนเป็น "ผลพวงทางการเมือง"
คดีในชั้นศาล
เมื่อวันศุกร์ (1 มีนาคม 2562) ที่ผ่านมา ณ ศาลรัฐบริติชโคลัมเบีย ทนายความของเมิ่งหว่านโจวกล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานและข้อมูลของเมิ่งไว้ในครอบครองเป็นการละเมิดกฏบัตรแคนาดาเรื่องสิทธิและเสรีภาพ
อีกทั้งทนายความยังชี้เพิ่มว่าเจ้าหน้าที่ประจำด่านพรมแดนของแคนาดา (CBSA) ตั้งใจก่อให้เกิดความล่าช้าในการปฏิบัติตามกฏหมาย โดยมีการบังคับคุมขัง ค้นตัว และสอบปากคำเพื่อยึดเอาหลักฐานต่างๆ จากเมิ่งหว่านโจว ซึ่งถือว่าละเมิดหลักปฏิบัติที่ถูกต้อง
ขณะที่เมิ่งหว่านโจวได้รับการประกันตัวแล้ว แต่ก็มีกำหนดขึ้นศาลที่แคนาดาอีกครั้งในวันพุธที่ 6 มี.ค. เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา
หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม ความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดาและจีนก็แย่ลงเรื่อยๆ รัฐบาลจีนได้ออกมาเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเมิ่งหว่านโจวหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล จีนมองว่าการกระทำครั้งนี้คือ "ข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนของสองประเทศที่ไม่เป็นธรรม" ซึ่งหมายถึงสหรัฐฯ และแคนาดา
อย่างไรก็ตาม แคนาดาย้ำว่า การกระทำทั้งหมดเป็นไปตามบรรทัดฐานของกฏหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: