วันที่ 15 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงแนวทางการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงประจำปี ว่า ก็ยังไม่พิจารณา แนวทางก็คือแนวทาง โดยจะพิจารณาดูความเหมาะสม
ส่วนที่ใกล้เดือนตุลาคมและขณะนี้เองรัฐบาลใหม่ยังไม่สามารถจัดตั้งได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องดูความเหมาะสม อะไรที่ทำได้อะไรที่ทำไม่ได้ อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ก็ไว้ใจเราก็แล้วกันเนาะ อย่าให้ปัญหามันมากไปกว่านี้เลย วันนี้การเมืองก็คือเรื่องของการเมือง เรื่องการทำงานของรัฐบาลก็อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มันต้องทำทุกวันอยู่แล้วเนาะ โอเค ขอบคุณ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า วันนี้มีคนในพรรครวมไทยสร้างชาติ มาหารือหรือขอคำแนะนำอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ต้องแนะนำอะไรหรอก เขาก็มีอุดมการณ์ของเขาอยู่แล้วก็ว่ากันไปตามกระบวนการ เขาก็มีสิทธิ์ของหัวหน้าพรรค ของการทำงานของแต่ละพรรค สส.เขาก็คุยกันอยู่แล้ว ก็บอกแล้วไงอย่าเอาเราไปยุ่งตรงนี้นะ
ส่วนมองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ ถามกลับว่า ไม่ได้ดูอะ ใครหรอ ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่าเป็นมี 2 คน ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน พล.อ.ประยุทธ์ จึงย้ำคำเดิมว่า ไม่ได้ดู ไม่ได้ดู ไม่ได้วิจารณ์ ไม่ได้วิเคราะห์อะไรทั้งสิ้น เพราะผมถือว่าผมไม่ได้เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของพรรคการเมือง สส.ต้องคุยกัน เอาประเทศให้มันเดินหน้าไปให้ได้ก็แล้วกันนะ ไม่ได้ไปขัดแย้งอะไรกับใครอยู่แล้ว ขอบคุณทุกคนนะจ๊ะ สวัสดีจะ พร้อมพูดขณะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าว่า "อย่าไปเบี่ยงเบนประเด็น" ซึ่งคาดการณ์ได้ว่า ในยุครัฐมนตรีอาจหมายความถึงการปรับหลักเกณฑ์ค่าตอบแทนเบี้ยผู้สูงอายุ
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้เป็นการประชุมตามปกติ มีการประชุมหลายเรื่องด้วยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่ต้องประชุมร่วมกับต่างประเทศด้วย ส่วนภายในเราก็แก้ปัญหาหนี้นู้นไป เป็นไปตามวาระทั้งหมด ไม่มีอะไรที่จะเป็นปัญหาถึงอนาคต ซึ่งนี่เป็นหน้าที่ที่พวกเราต้องทำ จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การปรับหลักเกณฑ์จ่ายเบี้ยผู้สูงอายุใหม่ ว่า ได้มีการชี้แจงไปแล้ว เป็นไปตามหลักการของคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ แต่ตอนนี้มีประเด็นที่ไม่เข้าใจ หรือที่เข้าใจแล้วแต่แกล้งไม่เข้าใจ คนที่ได้รับอยู่แล้ว ก็ยังได้เหมือนเดิม แต่วันนี้ต้องดำเนินการสู่อนาคต ว่าจะใช้งบประมาณอย่างไร ให้เพียงพอในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐบาลหน้า ที่สามารถดำเนินการได้ต่อไป เพื่อให้งบประมาณใช้จ่ายอย่างเพียงพอ เพราะปัจจุบันมีผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้แต่บางคนก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เราจึงต้องดูว่า เรามีเงินมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถือเป็นการเผื่อแผ่และแบ่งปันซึ่งกันและกัน
"คนที่มีรายได้สูง เขาได้ต้องเสียสละ ขออย่าไปฟัง เพราะหลายอย่างก็มาจากคนที่ไม่ได้ทำ ไม่เคยเป็นรัฐบาลมา ซึ่งตนก็ไม่อยากที่จะเอาเรื่องนี้มาตอบโต้"
บอกไม่อยากตอบโต้คนไม่เคยเป็นรัฐบา