จากกำหนดการเดิม วันนี้ (12 มี.ค.) ในเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี จะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด–19 ณ อาคารหอประชุมอัจฉรา สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
แต่หลังจากที่ทีมแพทย์ มีการหารือถึงผลข้างเคียงของการฉีดวัคซีนแอสตาเซเนกา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กรณีมีรายงานพบการแข็งตัวของลิ่มเลือด จนประเทศเดนมาร์กและ 6 ประเทศในยุโรปมีการระงับการใช้วัคซีนออกไป นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร ได้มีการชี้แจงว่า การฉีดวัคซีนในวันนี้จะถูกเลื่อนออกไป
ด้าน กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวกรณีต้องชะลอการดำเนินการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาไปก่อน โดยนพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์และแผนงานการบริหารจัดการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 ระบุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาประเทศเดนมาร์ก มีการประกาศชะลอการฉีดวัคซีนแอสตาเซเนกาไปก่อน หลังพบผลข้างเคียง ทำให้เลือดแข็งตัวในหลอดเลือดดำ
ทางคณะแพทย์และทีมงานด้านการฉีดต้องนำมาพิจารณา โดยการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนคนไทย นั้น กระทรวงสาธารณสุขและทีมแพทย์ หวังอย่างเดียวคือวัคซีนนั้นต้องปลอดภัยที่สุด ดังนั้นเมื่อมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ไม่จำเป็นต้องรีบฉีด แม้ว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกาจะมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพที่ดี เมื่อคนบอกว่าให้ชะลอไปก่อน ก็ควรที่จะรอฟังผลนั้น
ทั้งนี้ การประกาศชะลอดังกล่าว ต้องมีการไปสืบค้นว่าสาเหตุที่เกิดในประเทศฝั่งยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเดนมาร์กหรือออสเตรียว่า ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นเกิดจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ ประเทศไทยซึ่งควรใช้โอกาสที่ให้ความปลอดภัยกับประชาชนมากที่สุดจึงต้องชะลอไว้ รอผลการสืบค้นจากเดนมาร์กและหน่วยงานในยุโรป
นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิกคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้แจงว่า อาการที่เกิดขึ้นจะต้องพิสูจน์ว่าเกี่ยวกับวัคซีนหรือไม่ โดยจะต้องมีการตรวจสอบ ซึ่งการอาการลิ่มเลือด คือการแข็งตัวในหลอดเลือดดำ และมีโอกาสเข้าไปอุดในปอด ทำให้เลือดเข้าปอดไม่ได้ ซึ่งอาจอันตรายถึงชีวิต โดยโรคนี้พบได้ในยามปกติ
ทั้งนี้ มีการฉีดวัคซีนมาแล้ว 3 ล้านโดส มีคนเกิดลิ่มเลือด 22 ราย เสียชีวิต 1 ราย โอกาสเกิดคือ 7 ในล้านราย ดังนั้นจึงเลือนเพื่อดูสถานการณ์ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่และเป็นอย่างไร ซึ่งไม่ได้หมายความว่าวัคซีนไม่ดี โดยวัคซีนแอสตราเซเนกาในยุโรปและเอเชียผลิตคนละแหล่งกัน นอกจากนี้ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศเสี่ยงในการแพร่ระบาด ดังนั้นการชะลอการฉีดวัคซีนจึงไม่ส่งผลมากนัก
ขณะที่ ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า เชื่อว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน เพราะจากอดีตการใช้วัคซีนต่างๆ ไม่พบอาการลิ่มเลือดเช่นนี้ แต่ทางยุโรปพบว่ามีกรณีใกล้กันจึงต้องทำการสืบสวน จึงต้องรอผลการสืบสวนก่อน
ส่วน ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา กล่าวว่า แม้สาเหตุยังไม่ชัดเจน แต่ทางยุโรปก็ได้ชะลอ ดังนั้นไทยจึงชะลอไปก่อน แต่ไม่ได้ยกเลิก ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งแพทย์กังวลต่อภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น
ขณะที่ นพ.ปิยะสกล กล่าวอีกว่า แอสตราเซเนกา ไม่ใช่วัคซีนที่ไม่ปลอดภัย แต่ฉีดไปหลายล้านโดส เมื่อพบมีผลข้างเคียง จึงต่องรอผลการสืบค้น ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อรอผลยืนยันว่าปลอดภัยชัดเจน ก่อนนำมาฉีดประชาชน
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตนได้รับข่าวดังกล่าวเมื่อคืน ซึ่งยังไม่มีการพิสูจน์ แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ที่จะต้องได้รับการฉีควัคซีน เมื่อตนได้ทราบข่าวจึงได้มีการเรียกประชุมร่วมกับคณะแพทย์ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. และมีข้อสรุปว่าเพื่อความปลอดภัยของประชาชน เพื่อความมั่นใจ ประกอบกับสถานการณ์การระบาดของประเทศไทย ที่ยังไม่รุนแรงถึงขั้นควบคุมไม่ได้ จึงคิดว่ามีความเหมาะสม ที่จะรอการสืบสวน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยุโรป เพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย
ซึ่งตนได้โทรแจ้งนายทหารคนสนิทของนายกรัฐมนตรี ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าจะเชิญคณะแพทย์ ประชุมในเช้าวันนี้ โดยบอกให้นายกรัฐมนตรี อย่าเพิ่งเเดินทางมาฉีดในวันนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีการกำชับอะไร เพราะเรื่องแบบนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขต้องทำให้เกิดความมั่นใจ และนายกรัฐมนตรีมีความปลอดภัย ดังนั้นนายกรัฐมนตรีจึงปล่อยให้เป็นมติของทางคณะแพทย์ในการตัดสินใจว่าจะฉีดได้หรีอไม่ได้ เพราะต้องให้คณะแพทย์เป็นผู้ยินยอม เช่น วัคซีนของชิโนแวค ที่ทางทีมแพทย์ตรวจสอบแล้วว่าไม่มีปัญหา ทีมแพทย์ก็ให้ฉีดได้ แต่ในกรณีของแอสตราเซเนกา ทางทีมแพทย์เห็นว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้ฉีดคนแรกของประเทศไทย และเป็นถึงผู้นำประเทศ สถานการณ์ยังควบคุมได้ มีวัคซีนชิโนแวค ยังสามารถฉีดให้ประชาชนได้ จึงมีเวลาอยู่ และเชื่อว่านักวิชาการต่างๆ จะหาข้อมูล มาประกอบการตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่า ข้อมูลในวันนี้วัคซีนแอสตราเซเนกาจะยังสามารถนำมาฉีดให้นายกรัฐมนตรีได้อีกหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า แน่นอน ตนยังเชื่อมั่นว่าเป็นวัคซีนที่ดีอยู่ ไม่ใช่วัคซีนดังกล่าวไม่ดี แต่ด้วยเหตุการณ์ที่ประดังเข้ามา เหมือนจิ้งจกทัก ทั้งเดนมาร์ก และออสเตรีย ออกมาชะลอการฉีด 2 สัปดาห์ จึงไม่ใช่เรื่องเสียหายที่เราจะไปหาข้อมูล แต่เป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำ แสดงให้เห็นถึงระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง ว่าเราไม่ดื้อแพ่ง หรือ ต้องมีหน่วยกล้าตาย แต่ต้องเอาความปลอดภัยให้กับประชาชน ให้มากที่สุด ไม่ได้เสียเวลาจนมากเกินไป และไม่ได้ทำให้โรดแมปการจัดส่งวัคซีนแอสตราเชเนกา เกิดความเสียหาย
เมื่อถามว่า เมื่อมีข่าวการเลื่อนฉีดไปก่อน ทำให้ประชาชนตั้งคำถามว่า ชีวิตของประชาชนจะแขวนอยู่บนความเสี่ยงหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ถ้าเสี่ยงวันนี้ก็ฉีดแล้ว ถ้าสนใจแต่เรื่องของหน้าตา เดอะโชว์มัสโกออน บอกวันนี้ก็ต้องฉีดวันนี้ ต้องฉีดให้นายกรัฐมนตรีวันนี้ แต่พอมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ที่เราต้องพิจารณาอย่างรอบครอบ ก็ต้องมีการเลื่อนออกไป นี่คือความมั่นใจ ว่าจะไม่นำความเสี่ยงมาให้ประชาชนอย่างแน่นนอน และยังมีเวลาอีก 3 เดือน ที่จะได้รับวัคซีน และวัคซีนของแอสตราเซเนกา ยังถือว่าเป็นวัคซีนที่ดี เพราะแอสตราเซเนกา เป็นผู้ผลิตวัคซีนกระจายไปทั่วโลก มีการจองซื้อมากที่สุด จาก 3-4 พันล้านโดส และยืนยันว่า วัคซีนที่สั่งมาของประเทศไทย ขณะนี้ไม่มีความเสียหาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :