ไม่พบผลการค้นหา
กรมชลประทาน ชี้แจงกรณีการระบายน้ำจากเขื่อนลำตะคอง รองรับปริมาณน้ำจากพายุ 'โมลาเบ' ยืนยันไม่กระทบพื้นที่ท้ายเขื่อนและตัวเมืองนครราชสีมา ด้านผู้ว่าฯโคราช เตือน 14 อำเภอ เตรียมเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง-น้ำไหลหลาก

ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาเรื่องพายุ 'โมลาเบ' ในช่วงวันที่ 28-29 ต.ค. นี้ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมาก กรมชลประทาน โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง จึงได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ เนื่องจากเขื่อนลำตะคองมีปริมาณน้ำอยู่เกือบเต็มอ่างฯ แต่ยังสามารถรับน้ำได้อีกประมาณ 27 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้มีการระบายน้ำออกจากอ่างฯเลย ดังนั้น เพื่อเป็นการรองรับปริมาณน้ำที่คาดว่าจะไหลลงอ่างฯเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป จึงจำเป็นต้องระบายน้ำจากเขื่อนลำตะคองลงสู่ลำน้ำธรรมชาติ ในอัตราวันละไม่เกิน 1 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 10 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลา 12.00 ของวันที่ 26 ต.ค. 2563

122740463_4926957130710621_4051992013276241502_n.jpg

สถานการณ์น้ำในพื้นที่เมืองนครราชสีมา ปัจจุบันแนวโน้มปริมาณน้ำท่าในลุ่มน้ำลำตะคองสายหลัก ตั้งแต่อาคารแบ่งน้ำละลมหม้อ ถึง ประตูระบายน้ำข่อยงาม มีแนวโน้มลดลง ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ 6 ชุมชน ของชุมชนมิตรภาพซอย 4 กลับสู่สภาวะปกติแล้ว ส่วนทางด้านปริมาณน้ำที่ผันลงสู่ลำบริบูรณ์ ส่วนหนึ่งได้ผันลงสู่ลำเชียงไกรผ่านบึงพุดซา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำเชียงไกรเพิ่มขึ้น ปริมาณน้ำบางส่วนได้ไหลบ่าเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร ส่วนที่เหลือได้ผันไปตามลำบริบูรณ์ไปจนถึงประตูระบายน้ำจอหอ ก่อนที่จะเร่งระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำกันผม เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำมูลตามลำดับ เพื่อลดปริมาณน้ำในลำบริบูรณ์

ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 8 ได้เตรียมพร้อมรับมือในกรณีที่อาจจะได้รับผลกระทบจากพายุ 'โมลาเบ' ด้วยการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในลำบริบูรณ์ บริเวณประตูประบายน้ำจอหอ และในลำตะคองที่ประตูระบายน้ำข่อยงาม และประตูระบายน้ำกันผม จุดละ 3 เครื่อง รวม 9 เครื่อง พร้อมกับดำเนินการขุดลอกลำน้ำ การกำจัดผักตบชวา และเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

กรมชลประทาน ขอยืนยันว่าปริมาณน้ำที่ระบายจากเขื่อนลำตะคอง จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำ รวมไปถึงบริเวณที่ไหลผ่านตัวเมืองนครราชสีมา เนื่องจากปริมาณน้ำในลำน้ำลำตะคองมีปริมาณต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 50 เซนติเมตร ประกอบกับปริมาณน้ำที่เคยท่วมขังได้ลงไหลสู่แม่น้ำมูลไปแล้ว จึงขอให้ประชาชนด้านท้ายเขื่อนอย่าได้วิตกกังวล และขอให้รับฟ้งข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น หรือโทร.สอบถามได้ที่สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา

122526653_4926957094043958_4336690472312434351_n.jpg

ผู้ว่าฯโคราช เตือน 14 อำเภอ เตรียมรับมือพายุโมลาเบเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง

วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ เรื่อง แจ้งเตือนการระบายน้ำจากเขื่อนลำตะคอง และเขื่อนลำพระเพลิง ด้วยจังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาสำตะคองว่า จะระบายน้ำออกจากเขื่อนลงลำน้ำธรรมชาติ เพื่อพร่องน้ำรองรับสถานกรณ์พายุโมลาเบ โดยระบายน้ำออกจากเขื่อนลำตะคองออกไม่เกินวันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร และสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำพระเพลิงพบว่า มีปริมาณน้ำระดับกักเก็บ 156 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 101% และจะมีการระบายน้ำไหลลงคลองธรรมชาติ และจะส่งผลให้ลำน้ำสาขามีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยมวลน้ำทั้งหมดจะไหลไปที่ลำน้ำมูล ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา  

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหากรณีเกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง และน้ำไหลหลากในพื้นที่ จึงได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยในพื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งลำน้ำ และพื้นที่ริมตลิ่งในเขตลุ่มน้ำลำตะคอง ลำเชียงไกร ลำบริบูรณ์ ลำพระเพลิง และลำน้ำมูล ได้แก่ อำเภอสีคิ้ว สูงเนิน ขามทะเลสอ เมืองนครราชสีมา โนนไทย โนนสูง ปักธงชัย โชคชัย เฉลิมพระเกียรติ จักราช พิมาย ชุมพวง ลำทะเมนชัย และอำเภอเมืองยาง ได้รับทราบ และตระหนักถึงสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยหากทางอำเภอประเมินสถานการณ์แล้วพบว่า อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ ให้สั่งอพยพประชาชนทันที และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าสถานการณ์จะยุติ โดยทุกพื้นที่ต้องรายงานสถานการณ์ และผลการดำเนินการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาทราบโดยตรง

ทั้งนี้ประกาศแจ้งเตือนของจังหวัดนครราชสีมาดังกล่าว เป็นการเตรียมรับมือกับพายุโมลาเบ ที่คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนัก และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคอีสานตอนล่างในวันที่ 28-31 ต.ค.นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :