นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ได้อภิปรายในวันแถลงนโยบายรัฐบาล ว่า หัวใจของปัญหาประเทศในปัจจุบัน คือ ปัญหาความเชื่อมั่นประเทศด้านการเมือง ซึ่งส่งผลต่อการค้า การลงทุน และการย้ายฐานการลงทุน จนประเทศไทยประสบปัญหาทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และทีมงานซึ่งต่างจบการศึกษาจากโรงเรียนเสนาธิการทหาร จึงน่าจะทราบหัวใจของปัญหาดีว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร เวลาไหน กล้าตัดสินใจหรือไม่

นายชวลิต กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคลุกคลีอยู่กับชาวบ้านทราบดี ว่าคนส่วนใหญ่กำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ ปากทัองอย่างหนักหนาสาหัส อย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน หนักกว่าวิกฤติเศรษฐกิจ ปี 2540 เพราะครั้งนั้นกระทบกับผู้ประกอบการสถาบันการเงิน และธุรกิจนำเข้า และส่งออก ซึ่งเป็นคนระดับกลางขึ้นไป แต่วิกฤติครั้งนี้ กระทบกับคนส่วนใหญ่ ตั้งแต่ระดับกลางลงมา โดยเฉพาะเกษตรกร และพ่อค้า แม่ค้า ตามตลาดทั่วไป ธุรกิจระดับกลาง ระดับย่อม ตลอดจนผู้ใช้แรงงาน ได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะขาดกำลังซื้ออย่างรุนแรง

นายชวลิต กล่าวว่า รัฐบาลควรรีบตัดสินใจส่งสัญญาณบวกว่าจะแก้ไขหัวใจของปัญหา คือ ปัญหาการเมือง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นประเทศ ด้วยการส่งสัญญาณว่า จะแก้รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ให้อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง เพื่อให้ได้รับการยอมรับและความเชื่อมั่น เมื่อประเทศได้รับความเชื่อมั่น จะส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น เพราะประเทศไทยอยู่ศูนย์กลางของภูมิภาค มีทรัพยากร มีโครงสร้างพื้นฐานค่อนข้างสมบูรณ์ เพียงขอให้ประชาชนและชาวโลกเชื่อมั่นในความเป็นธรรม ความมีเสถียรภาพทางการเมือง ประเทศก็จะเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคง

“ผมให้ความเห็นดังกล่าวข้างต้นด้วยความสุจริตใจ โดยขอฝากข้อสังเกตว่า ท่านจะมีความสุขอย่างไร ถ้าจะอยู่ในอำนาจบนความเดือดร้อนของอาณาประชาราษฎร ทั้งที่รู้หัวใจของปัญหาแล้ว แต่ไม่แก้ให้ตรงจุด กลับไปแก้ที่ปัญหารอง ซึ่งแก้เท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ เพราะหัวใจของปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข ผมเห็นว่าห้วงเวลานี้เป็นห้วงเวลาที่เป็นสิริมงคลของประเทศและปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า เหมาะสมอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะแสดงเจตนาแก้หัวใจของปัญหาบ้านเมืองดังกล่าวข้างต้นอย่างสุจริตใจและทันสถานการณ์ความเดือดร้อนของประชาชน”นายชวลิต กล่าว