พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมใหญ่สามัญพรรค ระบุว่าทางพรรคจะยังคงเดินหน้าต่อไปในสนามการเลือกตั้งครั้งหน้า แม้จะมีการแก้ไขระบบการเลือกตั้งให้เปลี่ยนไปจากเดิม แต่เชื่อว่า หากประชาชนต้องการเห็นตนเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ควรเลือกเสรีรวมไทย ทั้งคน และพรรค
เมื่อถามว่าการตั้งเป้าเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ก็เท่ากับว่ากำลังเป็นคู่เเข่งกับ พล.อ.ประยุทธ์ มีความคิดเห็นอย่างไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า “คุณประยุทธ์ แค่หมูๆ ไม่มีอะไรหรอก จะอยู่ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าพลังประชารัฐไม่เอาก็จบแล้ว”
เมื่อถามต่อไปถึงการเลือกตั้งซ่อม จ.ราชบุรี ซึ่งทาง ปารีณา ไกรคุปต์ ไม่ได้สนับสนุนเครือญาติลงเลือกตั้ง อีกทั้งพรรคพลังประชารัฐก็ไม่ได้ส่งตัวแทนลงเลือกตั้งด้วย สิ่งนี้จะทำให้พรรคเสรีรวมไทยเป็นต่อในการเลือกตั้งซ่อมราชบุรีหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ในตอนแรกตั้งใจว่าจะลงไปวัดกระแส หลังจากที่พรรคเข้าไปทำงานในพื้นที่มากว่า 3 ปีแล้ว แต่ปรากฎว่ามีผู้สมัครเพียง 2 คน คือพรรคตน และพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเชื่อว่า ผู้รักประชาธิปไตยจะเทคะแนนเสียงให้กับเสรีรวมไทย
เมื่อถามถึงกรณีที่ สนธิญา สวัสดี ให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่กราบเท้า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หลังแพ้คดีหมิ่นประมาทนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า ไม่เคยพูดให้ใครมากราบเท้าตน แต่คงไปเห็นกรณีหมอธีร์ ที่เคยกราบเท้าขอให้ตนถอนฟ้อง ซึ่งครั้งนั้น ตนก็ไม่ได้เป็นคนสั่ง ไม่ได้ต้องการให้ใครทำแบบนั้น แต่เขาตั้งใจทำเอง ไม่ได้กราบจะไม่กลับ
นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึง สมชัย ศรีสุทธิยากร และ วีระ สมความคิด ที่เข้ามาร่วมงานกับพรรคว่า เป็นคนที่ไว้ใจได้ และมีความรู้ ความสามารถ โดยเฉพาะเรื่องการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งทั้งคู่จะลงสมัครรับเลือกตั้งให้กับพรรคด้วย แต่จะในระบบเขต หรือบัญชีรายชื่อต่อรอดูต่อไป
สำหรับรายชื่อทีมงานใหม่ที่เข้ามาร่วมงานกับพรรคประกอบด้วย
1. สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. จะมารับหน้าที่ เป็น "ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรค"
2.วีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น จะมารับหน้าที่เป็น "ประธานยุทธศาสตร์แผนงานต้านคอร์รัปชั่น"
3.หมู่อาร์ม ส.อ.ณรงค์ อินทรกวี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง - อดีตผู้เปิดโปงทุจริตเบี้ยเลี้ยงทหาร
4. ดร.เบญจวรรณ สุจริต อดีตรองอธิการบดี ด้านนโยบายและแผน มหาวิทยาลัยอุตรดิตถ์ และอดีตคณะทำงานการจัดทำยุทธศาสตร์สำนักวิจัยแห่งชาติ
5. นายกษิติ กมลนาวิน อดีตพิธีกรรายการโทรทัศน์ และคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
สมชัย ศรีสุทธิยากร ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมประชุมใหญ่สามัญพรรคเสรีรวมไทย ระบุถึงกรณีของ จุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีเป็นข่าวพัวพันคลิปเสียงเรียกเงินแลกโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล และมีกรณีการรับรองเท้าแบรนด์เนม โดยสมชัยเห็นว่า กรณีนี้ถือเป็นการทำผิดประกาศของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติแล้ว เนื่องจากประกาศระบุว่า จะต้องส่งรายงาน ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการรับของที่มีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท ภายใน 30 วัน ฉะนั้นหากนับจากวันที่ จุรีพร ได้รับรองเท้ามา คือ 13 มี.ค. ถือว่า เกิน 30 วันแล้ว และเรื่องนี้ถือว่าอยู่ในมือของ ป.ป.ช.แล้ว และเป็นหน้าที่ที่ ป.ป.ช. ต้องตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง
“ผมจะดูท่าที ป.ป.ช. ก่อนว่าเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้หรือไม่ ถ้าไม่ผมก็จะยื่นให้มีการไต่ส่วน ป.ป.ช. แทน เรื่องนี้ประชาชนสามารถทำได้โดยการเข้าชื่อกัน 2 หมื่นชื่อให้มีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนอิสระ เพื่อไต่สวน ป.ป.ช. ได้”