พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวีตขอความขออนุญาตกลับประเทศไทยมาเลี้ยงหลานก่อนวันเกิดตนเองในเดือนกรกฎาคม โดยจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายในช่วงรัฐบาลรักษาการของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ตนไม่ได้อ่าน ช่วงนี้ไม่ได้อ่าน
เมื่อถามว่า ในทางปฎิบัติหาก ทักษิณ กลับมาจะทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็กลับมาด้วยอะไร ก็ว่าไปตามนั้น
เมื่อถามว่า ทักษิณ จะกลับมาพร้อมเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ในช่วงรัฐบาลรักษาการ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็สุดแล้วแต่ท่าน แล้วแต่กระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามย้ำว่า อยู่ในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลรักษาการ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กระบวนการยุติธรรม ตนไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับศาล
เมื่อถามว่า ไม่ได้มีสัญญาณถึงนายกรัฐมนตรี ว่าจะขอกลับมา หรือมีการดีลเกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาส่งมาทางไหน ทางอากาศหรอ ผมไม่ได้รับ ไม่ได้รับคลื่นตรงนี้กลับมา
เมื่อถามว่าการที่ ทักษิณ ส่งสัญญาณเช่นนี้เหมือนมั่นใจว่าจะได้กลับมา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กระบวนการยุติธรรม จากนั้นได้เดินออกจากโพเดียมขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามต่อว่า ถึงความพยายามในการเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ในช่วงนี้เป็นการปลุกกระแสก่อนเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถามเองก็ตอบเอง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวงถึงกรณีที่มีการยิงเลเซอร์หาเสียงบนสะพานพระราม 8 ว่า เขากำลังชี้แจงกันอยู่ ซึ่งต้องไปดูว่ากฎหมายเขาว่าอย่างไร พร้อมย้ำกำลังมีการชี้แจงอยู่ตอนนี้ และทางพรรคเองก็ไม่ทราบในประเด็นดังกล่าวมาก่อน คงเป็นความหวังดีของคนทำ
ส่วนได้มีการพูดคุยกับ ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติแล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องคุยสิ ก็ต้องคุยแล้วแหละ เมื่อเช้าคุยกันมาแล้ว พร้อมบอกกับสื่อมวลชนว่า ขอให้ถามสิ่งดีๆ บ้างสิ
ด้าน สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า ตนเพิ่งได้เห็นเมื่อช่วงเช้าที่มีคนส่งมาให้ดู ตอนแรกก็คิดว่าเป็นการตัดต่อ พร้อมมองว่า เป็นความหวังดีของคนบางคนซึ่งก็ต้องยอมรับ พร้อมถามกลับว่าหากมีคนทำดีกับเราแล้วจะทำอย่างไร แต่เราไม่ได้เป็นคนทำหนิครับ
เมื่อถามว่า การที่พรรคออกแถลงการณ์ชี้แจงมาเช่นนี้จะเป็นการโยนบาปให้ ทิพานัน หรือไม่ สุชาติ กล่าวว่า จะพูดเช่นนั้นไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร