พรรคไทยรักษาชาติจัดเสวนาปัญหาฝุ่นพิษและทางออกที่ถูกต้อง โดยมี นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์, นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย, นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, และนายนิคม ไวยรัชพานิย์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค
นายจาตุรนต์ ระบุถึงปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่ถือเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่รัฐบาลตั้งใส่ใจอย่างจริงจัง เพราะกระทบกับสุขภาพและชีวิตประชาชนมากกว่า 15 ล้านคน เป็นต้นเหตุการตายก่อนวัยอันควรในหลายประเทศ ขณะที่สถานการณ์ในไทยอาจยืดเยื้อไปอีก 3-4 เดือน หากไม่มีมาตรการแก้ปัญหาที่ชัดเจนและเข้มงวด จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะต่อชีวิตคนที่ประเมิณค่าเป็นตัวเงินไม่ได้
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า นอกจากรัฐบาลจะไม่มีความชัดเจนของมาตรการแก้ปัญหาแล้ว ยังปกปิด ไม่บอกความจริงต่อประชาชน ซึ่งทุกอย่างต้องอิงหรือใช้ความเห็นนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญทั้งในไทยและต่างประเทศเป็นหลัก ผู้มีอำนาจหรือฝ่ายการเมืองไม่ควรตัดสินใจหรือคิดเองเออเอง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลยอมรับและเปิดเผยความจริงต่อสังคม โดยใช้ข้อมูลวิชาการรวมถึงจากองค์การอนามัยโลก ทั้งมิติการแก้ปัญหาตามมาตรฐานสากลที่รัฐจะต้องดำเนินการอย่างเลี่ยงไม่ได้และเผยผลกระทบที่ประชาชนต้องเผชิญอย่างตรงไปตรงมา
นอกจากนี้ หากการดำเนินมาตรการที่เข้มข้นซึ่งจำเป็นต้องทำนั้น กระทบต่อผู้ประกอบการ ภาครัฐต้องชดเชย พร้อมเทียบเคียงรัฐบาลในอดีต ที่ชดเชยกรณีไข้หวัดนก ที่ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกได้รับผลกระทบจากนโยบายแก้ปัญหา ราว 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งแม้ว่าแพงกว่านี้ภาครัฐก็ต้องจ่าย เพราะเป็นชีวิตของประชาชน
ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคไทยรักษาชาติ ยังเสนอด้วยว่า ภาครัฐต้องแจกหน้ากากกันฝุ่นพิษที่มีประสิทธิภาพให้กับประชาชนฟรี เพราะปัจจุบันนอกจากหน้ากากอนามัยขาดตลาดแล้ว ผู้มีรายได้น้อยจะลำบากในการเจียดเงินซื้อหาด้วย โดยยกตัวอย่างกรณีไข้หวัดนกที่นายจาตุรนต์ มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหามาแล้ว โดยได้สั่งนำเข้าหน้ากากอนามัยจากประเทศสิงคโปร์ ระดมมาภายในวันเดียงทางเครื่องบิน ซึ่งจะสั่งกี่ล้านชิ้นก็ได้
หากต้องการใช้ในระยะยาว ต้องตกลงกับบริษัทในไทย ให้นำเข้ามาเก็ยไว้ในสต็อก โดยรัฐบาลเพียงจ่ายค่าเช่าหรือดูแลสต็อกให้กับบริษัทเอกชนเท่านั้น พร้อมย้ำถึงความสำคัญของการจูงใจให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย โดยตัวนายกรัฐมนตรีเอง ควรทำเป็นตัวอย่าง ด้วยการสวมหน้ากากไปยืนอยู่ในจุดที่มีค่าส่วนเกินค่ามาตรฐานด้วยซ้ำ แล้วแนะนำให้ประชาชนตระหนักรู้ ไม่ควรคิดว่าคนจะมองว่าเป็นการสร้างภาพตามที่ปรากฎเป็นข่าวออกมา
ขณะที่ นายประภัสร์ จงสงวน กรรมการยุทธศาสตร์ ทษช. ระบุว่า รัฐบาลไม่มีมาตรการที่ชัดเจนและรูปธรรมการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ทางพรรคเห็นความจำเป็นจึงอยากแชร์แนวทางของพรรคในการแก้ปัญหา และหวังว่ารัฐบาลจะเปิดใจกว้างรับฟังด้วย เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เพื่อประโยชน์และสุขอนามัยของประชาชน