ไม่พบผลการค้นหา
ทางการอิหร่านประกาศว่า รัฐบาลได้ประหารชีวิตผู้ชุมนุมรายแรก ฐานความผิดก่อจลาจลต่อต้านรัฐ โดยจำเลยอย่าง โมห์เซน เชคารี ชายชาวอิหร่านถูกแขวนคอประหารชีวิตในช่วงเช้าที่ผ่านมาของวันนี้ (8 ธ.ค.) หลังจากศาลการปฏิวัติอิสลามพบว่า เชคารีมีฐานความผิด “เป็นศัตรูต่อพระเจ้า”
_127926960_mediaitem127926955.jpg.webp

ทางการอิหร่านกล่าวหาว่า เชคารีเป็น “ผู้ก่อการจลาจล” ปิดกั้นถนนสายหลักในกรุงเตหะรานเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา และทำให้สมาชิกกองกำลังกึ่งทหารได้รับบาดเจ็บด้วยมีดพร้า ทั้งนี้ นักเคลื่อนไหวคนหนึ่งกล่าวว่า เชคารีถูกตัดสินว่ามีความผิด ท่ามกลาง “การแสดงโชว์การพิจารณาคดี ที่ไม่มีกระบวนการอันเหมาะสม”

มาห์มูด อามีรี-โมกัดดัม ผู้อำนวยการองค์กรสิทธิมนุษยชนอิหร่านในนอร์เวย์ ทวีตข้อความว่า การประหารชีวิตผู้ประท้วงจะเริ่มขึ้นทุกวันนับแต่นี้ เว้นแต่ทางการอิหร่านจะเผชิญหน้ากับ “ผลที่ตามมาเชิงปฏิบัติอย่างรวดเร็วในระดับนานาชาติ” เพื่อเป็นการเรียกร้องการกดดันนานาชาติ ต่อรัฐบาลอิหร่านที่ปกครองด้วยระบอบเผด็จการ

สำนักข่าวไมซานของตุลาการอิหร่านรายงานว่า ศาลคณะปฏิวัติอิหร่านได้รับแจ้งว่า โมห์เซน เชคารี ได้ปิดกั้นถนนซัตตาร์ ข่าน ของกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ 25 ก.ย. และใช้มีดพร้าโจมตีสมาชิกกองกำลังต่อต้านบาซิจ ซึ่งเป็นกองกำลังอาสาสมัครกึ่งทหารที่มักถูกระดมไปใช้ในการปราบปรามการประท้วงในอิหร่าน

สำนักข่าวไมซานรายงานอีกว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ศาลอิหร่านตัดสินว่าเชคารีมีความผิดในข้อหาต่อสู้และชักอาวุธ “โดยมีเจตนาที่จะสังหาร ก่อให้เกิดความหวาดกลัว ก่อกวนความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสังคม” และตัดสินว่าเขาเป็น “ศัตรูต่อพระเจ้า” ทั้งนี้ เชคารีได้ยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน แต่ศาลฎีกาได้พิพากษายืนโทษประหารชีวิตแก่เขาเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา

จนถึงขณะนี้ คณะตุลาการอิหร่านได้ประกาศว่ามีผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมตัวอีก 10 คน ซึ่งถูกตัดสินโทษประหารชีวิต โดยศาลปฏิวัติอิหร่านได้ตั้งข้อหา “เป็นปฏิปักษ์ต่อพระเจ้า” หรือ “การฉ้อฉลบนโลกมนุษย์” ต่อประชาชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประท้วง ทั้งนี้ ศาลอิหร่านไม่มีการเปิดเผยตัวตนของจำเลยที่ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตเหล่านี้

องค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า โทษประหารชีวิตของอิหร่านต่อผู้ประท้วง ถูกออกแบบมาเพื่อ “ปราบปรามการลุกฮือของประชาชน” และ “สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน” โดยศาลปฏิวัติอิหร่านตัดสินคดี “ภายใต้อิทธิพลของกองกำลังความมั่นคง และหน่วยข่าวกรองเพื่อตัดสินกำหนดโทษที่รุนแรง หลังจากการพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งดำเนินการด้วยกระบวนที่รวบรัดและเป็นความลับในกรณีส่วนใหญ่”

การประท้วงต่อต้านนักการศาสนาอิหร่านที่ปกครองประเทศ ปะทุขึ้นในช่วงกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากการเสียชีวิตจากการควบคุมตัว มาห์ซา อามินี หญิงวัย 22 ปี ซึ่งถูกควบคุมตัวโดยตำรวจศีลธรรมในข้อหาสวมฮิญาบหรือผ้าคลุมศีรษะ “ไม่เหมาะสม” โดยหลังจากการตายของอามินี การประท้วงที่นำโดยผู้หญิงชาวอิหร่านได้แพร่กระจายไปยัง 160 เมืองใน 31 จังหวัดของประเทศ และขบวนการดังกล่าวถูกมองว่าเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ร้ายแรงที่สุดต่อสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน นับตั้งแต่การปฏิวัติล้มอำนาจกษัตริย์ในปี 2522

ผู้นำของอิหร่านออกมากล่าวหาว่า กลุ่มผู้ประท้วงเป็นพวกก่อ “การจลาจล” ที่ถูกยุยงโดยศัตรูต่างชาติของอิหร่าน และสั่งให้กองกำลังความมั่นคง “จัดการอย่างเด็ดขาด” กับผู้ประท้วง ทั้งนี้ ตามรายงานของสำนักข่าว นักกิจกรรมสิทธิมนุษยชน (HRANA) ระบุว่า จนถึงขณะนี้มีผู้ประท้วงเสียชีวิตอย่างน้อย 475 คน และถูกควบคุมตัว 18,240 คน นอกจากนี้ ยังมีรายงานการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีก 61 คน


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-middle-east-63900099?fbclid=IwAR1XdKZRdhD-PbEKN4wO0-0BrVNNDbBzQ3_ud3ZXDVTHF6M4JcgFMXB8Us8