ไม่พบผลการค้นหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจบราซิลระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 18 ราย หลังจากการบุกเข้าโจมตีแก๊งอาชญากร ที่มีอิทธิพลควบคุมพื้นที่บางส่วนของสลัม ซึ่งมีความรุนแรงมากที่สุดในเมืองริโอเดอจาเนโร

เจ้าหน้าที่ของเมืองริโอเดอจาเนโร พร้อมอาวุธหนัก 400 นาย ถูกส่งตัวเข้าไปยังเขตสลัมอาเลเมา ในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (21 ก.ค.) โดยหลังจากการบุกเข้าไปของทางการ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 18 คน เป็นศพของคนร้าย 16 ศพ และเป็นเจ้าหน้าที่อีก 2 ศพ

ปฏิบัติการทลายรังโจรในครั้งนี้เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน ทำให้ชาวบ้านหลายพันคนต้องอยู่แต่ในบ้าน โดยจุดประสงค์ของการบุกโจมตีครั้งนี้ เป็นไปเพื่อการจับกุมเหล่าอาชญากรที่กำลังวางแผนโจมตีสลัมแก๊งของฝ่ายข้าม

สำนักข่าวท้องถิ่นของบราซิลรายงานว่า คนร้ายบางคนสวมเครื่องแบบคล้ายกับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้มองเห็นและจับกุมได้ยาก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทั้ง 400 คน อาศัยกองหนุนเป็นรถกันกระสุน 10 คัน และเฮลิคอปเตอร์อีก 4 ลำ

คนร้ายหลายคนได้รับบาดเจ็บและหามตัวขึ้นรถ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแค่ยืนมองเฉยๆ กิลแบร์โต ซานติอาโก โลเปซ จากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนอนาคริมกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือ “เจ้าหน้าที่ไม่ได้จะมาจับคนร้าย แต่มาฆ่าทิ้งเลยต่างหาก พอคนร้ายได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่ก็เหมือนจะปล่อยให้ตาย” 

การบุกโจมตีเพื่อจับแก๊งค้ายาอย่างโหดเหี้ยมในลักษณะนี้ เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในเขตสลัมของริโอเดอจาเนโร 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มสิทธิมนุษยชนในบราซิลวิพากษ์วิจารณ์การบุกเข้าโจมตีของเจ้าหน้าที่ ต่อสถานที่ที่ผู้คนอยู่อาศัยกันอย่างแออัด และมีรายได้น้อยว่าการโจมตีดังกล่าว เป็นการเอาชีวิตของชาวบ้านมาเสี่ยง และไม่ได้พยายามโค่นล้มอำนาจของพวกแก๊งค้ายาอย่างจริงจัง

ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 22 ราย ในเขตสลัมบียา ครูเซโร และเมื่อปีที่แล้ว มีผู้เสียชีวิตจากการยิงต่อสู้กัน 25 ราย ในเขตเมืองจาคาเรซินโญ โดยในกลุ่มผู้เสียชีวิตเอง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในนั้นด้วย


ที่มา: 

https://www.bbc.com/news/world-latin-america-62260948