ไม่พบผลการค้นหา
‘ประวิตร’ ขนแกนนำ พปชร. ขึ้นรถไฟลุยหาเสียงโคราช แวะทักทายประชาชน ‘ดอนเมือง-อยุธยา-สระบุรี-แก่งคอย-ปากช่อง’ จบท้ายสถานีโคราช ก่อนร่วมเวทีปราศรัยเปิดตัวผู้สมัคร 16 เขต

วันที่ 22 เม.ย. เวลา 07.00 น. ที่สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกเดินทางด้วยขบวนรถเร็ว ขบวนที่ 135 กรุงเทพมหานคร-อุบลราชธานี โดยมี วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานภาคเหนือ และชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และคณะร่วมเดินทางด้วย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ได้นั่งรถกอล์ฟเพื่อมายังชานชาลาที่ 2 เพื่อเตรียมขึ้นขบวน โดยที่ในโบกี้ที่ พล.อ.ประวิตร นั่งนั้นคือโบกี้ตู้พัดลมที่มีประชาชนผู้โดยสารนั่งรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร จะแวะทักทายประชาชนที่สถานีดอนเมือง สถานีอยุธยา สถานีสระบุรี สถานีชุมทางแก่งคอย สถานีปากช่อง และสิ้นสุดที่สถานีนครราชสีมา จากนั้นจะเดินทางไปสักการะท้าวสุรนารี (ย่าโม) ก่อนจะร่วมเวทีปราศรัยใหญ่ในเวลา 17.00 น. พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา ทั้ง 16 เขต


บอก “ไม่เป็นไร” หลัง ‘เพื่อไทย’ ปิดประตูจับมือ

ระหว่างนั่งขบวนรถไฟเพื่อไปหาเสียงที่ จ.นครราชสีมา ว่า เป็นการขึ้นรถไฟในรอบ 40-50 ปี หลังจากนั่งไป จ.เชียงใหม่ สมัยเรียนโรงเรียนนายร้อยฯ โดยรวมมีความสนุก และไม่ร้อน เมื่อถามว่า จากที่ได้เห็นวิถีชีวิตประชาชนที่ต้องนั่งรถไฟ พรรคพลังประชารัฐจะพัฒนาในด้านใดบ้าง พล.อ.ประวิตร ตอบว่า จะพัฒนาอีสานด้วยรถไฟ และการเปิดอุตสาหกรรม เปิดสถานศึกษา หรือโรงเรียน เพื่อให้เกิดการสร้างงานในพื้นที่ภาคอีสาน และเพื่อไม่ให้คนออกนอกพื้นที่

เมื่อถามว่า คาดหวังในพื้นที่นครราชสีมาอย่างไร พล.อ.ประวิตร ตอบว่า เรื่องนี้ให้ไปถาม วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค เพราะเป็นผู้ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน ส่วนหัวหน้าพรรคนั้นไม่ต้องดูพื้นที่ ขณะที่ สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐก็อยากได้ทั้ง 16 เขต ส่วนการจะปักธงได้หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็อยากสิครับ แหมไม่น่าถามเลยนะ อยากได้แต่จะได้หรือไม่ก็ไม่รู้”

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวถึงแผนพัฒนานโยบายภาคอีสานประชารัฐว่า เราจะดำเนินการทำนโยบายอีสานประชารัฐให้ได้ก่อน ยังไม่ต้องเอาเรื่องอื่นมาพูด หากสามารถทำนโยบายอีสานประชารัฐที่จะเชื่อมต่อระหว่างภาคตะวันออก ไปถึงภาคตะวันตก หรือ จ.กาญจนบุรี ได้ จะทำให้หลายจังหวัดในภาคอีสานมีความเจริญ และคนที่อยู่ในภาคอีสานจะมีงานทำ ถือเป็นการสร้างงานโดยเฉพาะ 

เมื่อถามว่า มีอะไรจะกล่าวกับประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อยากให้เลือกตน และพรรคพลังประชารัฐ เพื่อที่จะได้ที่ 1 ตามที่ผู้สื่อข่าวสอบถาม ส่วนการจะได้เป็นนายกฯ ด้วยหรือไม่นั้น ระบุว่า การจะเป็นนายกฯ ต้องไปเลือกกันในรัฐสภา ไม่ใช่เลือกกันตรงนี้

เมื่อถามถึงกรณีที่ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ปราศรัยประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เป็นไร ก็ว่ากันก่อน และตนเองก็ยังไม่ประกาศว่าจะจับมือกับใคร ส่วนนโยบายการก้าวข้ามความขัดแย้งนั้น อยากให้ประชาชนทั้งประเทศเป็นหนึ่งเดียวกัน ส่วนความคิดทางการเมืองใครจะคิดอย่างไรก็คิดไป เพราะตนบังคับใครไม่ได้ 

พร้อมระบุว่า บรรยากาศของประชาชนในขณะนี้ก็สามารถทำให้ประชาชนปรองดองได้ เทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีตั้งหลายฝ่าย แต่ก็ยังสามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียว และนำความเจริญมาสู่ประเทศได้ ซึ่งประเทศไทยเรายังไม่ได้แตกแยกขนาดนั้น 

ส่วนกรณีที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดรายงานการไต่สวนกรณีปกปิดข้อเท็จจริงการแสดงทรัพย์สินนาฬิกา และแหวน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนอยากให้เปิด ยินดีจะได้รู้ความจริงว่าเป็นอย่างไร ตนเองไม่ได้มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น และอยากให้เปิดตั้งนานแล้ว พร้อมยืนยันว่า “ไม่ได้เอาของใครมา ยืมมา ผมก็คืนเขาไปแล้ว”


‘ป้อม’ โว อีสานปลอดแล้ง ! เตรียมลุย “อีสานประชารัฐ” ทันที หากได้เป็นรัฐบาล

ภายหลังพบปะประชาชนบริเวณชานชาลาสถานีรถไฟปากช่อง ระหว่างเดินทางไปหาเสียงที่ จ.นครราชสีมา พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงนโยบาย “มีเราไม่มีแล้ง” พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบ และย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า “แล้งไหมล่ะ” ก่อนจะกล่าวต่อว่า ตอนนี้มีน้ำในลำตะคอง อ.ปากช่อง กว่า 70% เพราะขนาดอยู่ในฤดูร้อนก็ยังมีน้ำ และตนเองทำมา 3-4 ปี ก็พบว่า ไม่มีแล้งสักวัน และตนไม่เคยประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้ง 

เมื่อถามว่า เป็นผลงานการแก้ปัญหาภัยแล้งเป็นของพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า หน่วยงานของตน ตนเป็นคนทำ ตนทำในนามของรัฐบาล ไม่ใช่เป็นของพลังประชารัฐ ส่วนตลอดเส้นทางที่ประชาชนรุมให้กำลังใจตนก็รู้สึกดี แม้จะมีหลายคนเชียร์ให้เป็นนายกฯ ก็เลือกตนสิ ถ้าเลือกก็ได้ ไม่เลือกก็ไม่ได้ พูดเฉยๆ ไม่ได้เป็นนายกฯ หรอก 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การนั่งรถไฟครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ไม่ใช่รอบสุดท้ายจะนั่งเรื่อยๆ เพื่อหาคะแนนเสียงในภาคอีสาน หากคะแนนเสียงดีก็จะกลับมานั่งรถไฟขอบคุณประชาชนอีกครั้ง แต่ให้รถไฟผ่านภาคอีสานทั้งหมดก่อน ตนก็จะนั่ง พร้อมกล่าวติดตลกว่า “ให้ผมอยู่ถึงนะ”

เมื่อถามถึงจุดเด่นของ พล.อ.ประวิตร ว่าจะทำทุกเรื่องให้สำเร็จใช่หรือไม่ พล.อประวิตร ตอบว่า จะทำทันทีหลังเป็นรัฐบาลทุกอย่างคิดไว้แล้วว่าจะทำอย่างไร ส่วนนโยบายอีสานประชารัฐจะต้องทำเป็นขั้นเป็นตอนจะทำทันทีไม่ได้เพราะต้องมีการวางแผนสำรวจเส้นทาง โดยกรมโยธาธิการต้องวางแผนร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย และกระทรวงคมนาคมต้องรับไปดำเนินการ เช่นเดียวกับรถไฟรางคู่ที่ทำอยู่เป็นการวางแผนของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา เหมือนกับรถไฟความเร็วสูงไทยจีนหนองคาย 

เมื่อถามว่า โครงการอีสานประชารัฐเป็นโครงการขนาดใหญ่ ได้มีการสอบถามประชาชนแล้งหรือยัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราคิดไว้ให้ประชาชนภาคอีสานมีงานทำมีเงินใช้ ให้ประชาชนชาวอีสานอยู่ที่อีสาน ไม่ออกมานอกพื้นที่ และเราคิดแล้วว่า จะทำให้คนอีสานมีรายได้เพิ่มมากขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากการพัฒนาพื้นที่การเกษตรแล้วยังได้ทำเรื่องน้ำในทุกๆ พื้นที่แล้ว