นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ พร้อมคณะทำงานเข้ายื่นหนังสือผ่านนายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักสืบสวน และกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ ป.ป.ช.ถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.เพื่อให้เร่งสรุปการไต่สวนกรณีทุจริตอนุมัติการก่อสร้างอาคารสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง เป็นสัญญาเดียว โดยฝ่าฝืนมติ คณะรัฐมนตรี ซึ่งนายวิญญัติและคณะได้ห้อยนกหวีดมาด้วย เพราะเห็นว่าหากใครมีนกหวีด เหมือนจะร้องขออะไรก็ได้ตามต้องการ 

นายวิญญัติ กล่าวว่า เรื่องนี้ผู้ถูกกล่าวหามี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวข้องกับอนุมัติสั่งการประมูลจัดจ้างโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทน และการไต่สวนของ ป.ป.ช.ไม่มีทีท่าว่าจะหาข้อสรุปมาตลอด 5 ปี ถือว่าล่าช้ากว่าปกติ ขณะที่คดีที่นายสุเทพ ฟ้องหมิ่นประมาทนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ คดีได้ถึงที่สุดก่อนแล้ว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า

คดีนี้อนุกรรมการไต่สวนที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานได้มีมติแจ้งข้อกล่าวหานายสุเทพ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิ และที่นางสาวสุภา ปิยะจิตติ เป็นคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เคยชี้ว่าการก่อสร้างไม่เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรี แล้วทำไม ป.ป.ช.จึงไม่รีบสรุปผลคดี เพราะประธาน ป.ป.ช.ต้องหาผู้รับผิดชอบความเสียหายหลายพันล้านบาท ไม่เช่นนั้น ป.ป.ช.ต้องรับผิดชอบ และนายวิญญัติ รวบรวมรายชื่อประชาชนไม่น้อยกว่า 20,000 รายชื่อ เตรียมร้องต่อประธานรัฐสภาหลังการเลือกตั้ง เพื่อเสนอประธานศาลฎีกาตั้งคณะไต่สวนอิสระ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 236

นายวิญญัติ ระบุด้วยว่า เหตุที่คดีนี้ล่าช้า มีใครรอผลคำตัดสินคดีหมิ่นประมาทหรือไม่ และคดีนั้นแม้เกี่ยวเนื่องกับคดีโรงพักร้างแต่เป็นคนละส่วนกัน โดยคดีหมิ่นประมาทไม่มีประเด็นวินิจฉัยว่าผู้เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างโรงพักมีหรือไม่มีความผิด แต่ ป.ป.ช. มีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานในมือแล้ว นายสุเทพกับพวกจะทุจริตตามที่กล่าวหาหรือไม่ ต้องชี้แจงต่อสาธารณชน