ไม่พบผลการค้นหา
รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซัดวิปรัฐบาล หยุดเลี่ยงเปิดสมัยประชุมวิสามัญ กลัวการตรอบสอบ

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล เปิดเผยผลการประชุมของวิปรัฐบาล ว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาล มีมติไม่เห็นด้วยกับการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญในช่วงเวลานี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่หมดไป และยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ยังไม่ชัดเจน จึงควรรอดูสถานการณ์ก่อน

นายพิจารณ์ ระบุว่า ความพยามยามในการเลี่ยงเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญออกไปของฝั่งรัฐบาล เพียงเพราะกลัวมาตราการควบคุมโรคหรือกำลังหนีการตรวจสอบกันแน่ เท่าที่ตนติดตามก็เห็นว่า ท่านส.ส.ฝากฝั่งรัฐบาลได้ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง

"ท่านไม่เห็นความเดือดร้อนของพวกเขาเลยหรือ ไม่เห็นแววตาให้ความหวังที่มองมายังพวกท่านหรืออย่างไร หรือการลงพื้นที่ของพวกท่านเพียงเพื่อต้องการรักษาคะแนนนิยมอย่างผิวเผิน แนะนำว่าหากพวกท่านอยากรักษาอำนาจต่อไปขอให้รีบเร่งแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างจริงใจ" นายพิจารณ์ กล่าว

นายพิจารณ์ กล่าวว่า การเยียวยาของที่ล่าช้าของรัฐบาล บวกกับความเฉยชาต่อประชาชนที่เดือดร้อนจากตัวแทนของพวกเขา คือชะตากรรมที่ประชาชนต้องแบกรับ พวกท่านได้ติดตามข่าวสารที่มีคนฆ่าตัวตายรายวันหรือไม่ จนถึงวันนี้สถานการณ์ความความเดือดที่ลุกลามบานปลายเพิ่มขึ้น ยังคิดว่ารอได้อีกหรือ

นายพิจารณ์ กล่าวว่า ประเด็นที่สำคัญและเร่งด่วนที่สุด แม้ พ.ร.ก.กู้เงิน จะมีผลบังคับใช้แล้ว แต่กระบวนการกู้จะไม่ได้รวดเร็ว ถึงวันนี้เพิ่งวางแผนกู้ก้อนแรก 70,000 ล้านบาทจาก 1 ล้านล้านบาท ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ และเงิน 70,000 ล้านก็เพียงพอสำหรับมาตรการเยียวยาช่วยเหลือ 5,000 บาทได้แค่เดือนเดียว สำหรับ 14 ล้านคน ครม.กำลังจะประกาศมาตรการสำหรับเกษตรกรอีกก้อนใหญ่ เราจึงคิดว่าทางออกงบประมาณที่เร็วกว่า คือการผ่านร่าง พ.ร.บ.โอนงบให้เร็วที่สุด ซึ่งการเร่งเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญคือทำให้การพิจารณา พรก กู้เงิน และ ร่าง พ.ร.บ. โอนงบปี 2563 ก็เร็วขึ้นการเยียวประชาชนก็รวดเร็วขึ้น

นายพิจารณ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประธานสภาฯ ก็พูดชัดว่าสภาพร้อมที่จะเปิดประชุม โดยมีมาตรการควบคุมโรคอยู่แล้ว ปัญหาของประชาชนก็จะสามารถดำเนินการแก้ไขได้เร็วตามมา ซึ่งในอดีตการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญก็ทำมาแล้วหลายครั้ง ขอเพียงมี50เสียง หรือ สว ร่วมกันกับฝ่ายค้าน ก็จะเพียงพอตามรัฐธรรมนูญ มาตรา123 ในการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ที่ต้องการเสียง 1 ใน 3 ของทั้งสองสภา ทั้งนี้ตนเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรหนีการตรวจสอบและควรพร้อมรับฟังเสียงจากผู้แทนราษฎรทั้งประเทศ ดังนั้น ขอเรียกร้องไปยัง สส ฝ่ายรัฐบาล แสดงบทบาทในฐานะ "ผู้แทนราษฎร" ร่วมกันเปิดประชุมสภาวิสามัญโดยเร็วเพื่อทำให้มาตรการของรัฐบาลตอบสนองประชาชนได้ดีกว่านี้และมีการใช้งบประมาณอย่างถูกต้องโปร่งใส นายพิจารณ์กล่า