หลังจากการพิจารณาคดีกระฉ่อนโลกยาวนานกว่า 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะลูกขุนของสหรัฐฯ ได้ตัดสินว่า แอมเบอร์ เฮิร์ด หมิ่นประมาทอดีตสามีของเธออย่าง จอห์นนี่ เดปป์ จริง จากบทความที่ถูกเผยแพร่ลงบน The Washington Post ว่าเธอเป็นเหยื่อของการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ทั้งนี้ คณะลูกขุนไม่พบหลักฐานยืนยันคำพูดของเฮิร์ด ก่อนตัดสินว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวของเฮิร์ด ส่งสร้างความเสียหายต่อเดปป์จริง
จากการตัดสิน คณะลูกขุนได้สั่งให้เฮิร์ดจ่ายเงินให้กับเดปป์ ผู้ที่ปฏิเสธว่าตนไม่เคยทำร้ายร่างกายอดีตภรรยา มูลค่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 515 ล้านบาท) เพื่อชดเชยและจ่ายค่าเสียหายจากผลกระทบของข้อกล่าวหาของเฮิร์ดต่อเดปป์ อย่างไรก็ดี เฮิร์ดในวัย 36 ปี ชนะ 1 ใน 3 ของข้อโต้แย้งของเธอต่อเดปป์ในวัย 58 ปี โดยคณะลูกขุนตัดสินให้เฮิร์ดได้รับเงินชดเชย 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 68 ล้านบาท)
อดีตคู่รักได้หย่าร้างกันในปี 2560 ทั้งสองได้ให้การต่อคณะลูกขุนบนศาลที่แฟร์เฟ็กซ์ มลรัฐเวอร์จิเนีย ตลอดระยะเวลา 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ที่เฮิร์ดอ้างว่า เดปป์ทำร้ายร่างกายเธอซ้ำๆ ในขณะที่เดปป์ปฏิเสธว่าตนไม่เคยทำร้ายร่างกายผู้หญิงคนใดมาก่อน รวมถึงเฮิร์ดด้วยเช่นกัน ในทางตรงกันข้าม เขาเองต่างหากที่เป็นเหยื่อของความรุนแรงโดยฝีมือของเฮิร์ดเอง
หลังจากการพิจารณาคดีที่กินเวลากว่าสองวันที่ผ่านมา คณะลูกขุนได้ตัดสินว่า ข้อความของเฮิร์ดเกี่ยวกับชีวิตการแต่งงานของตนกับอดีตสามี ซึ่งถูกเผยแพร่ลงใน The Washington Post ว่า “แอมเบอร์ เฮิร์ด: ฉันได้พูดส่งเสียงขึ้นมาต่อต้านความรุนแรงทางเพศ และเผชิญกับความโกรธแค้นของวัฒนธรรมของเรา มันจะต้องเปลี่ยน” นั้น เป็น “เรื่องโกหก” และเฮิร์ดมี “ความประสงค์ร้ายผูกพยาบาทที่แท้จริง” ต่อเดปป์
อย่างไรก็ดี คณะลูกขุนชี้ว่าเดปป์เองก็ได้หมิ่นประมาทเฮิร์ด เมื่อทนายความของเขาให้ความเห็นของตนลงใน The Daily Mail เมื่อปี 2563 ว่า ข้อกล่าวหาเรื่องการล่วงละเมิดของเฮิร์ดต่อลูกความของตนนั้นเป็นเรื่องหลอกลวง ทั้งนี้ หลังจากการอ่านคำพิจารณาคดีของคณะลูกขุน 7 ราย มีเสียงตะโกนจากนอกศาลแสดงความดีใจต่อเดปป์ว่า “จอห์นนี่ จอห์นนี่ จอห์นนี่” อย่างอื้ออึง
เดปป์ไม่ได้เดินทางมายังศาลด้วยตนเอง เนื่องจากเขาติดภารกิจที่ไม่สามารถเลื่อนออกไปได้ โดยนักแสดงชายดังมากบทบาทได้ดูการพิจารณาคดีผ่านทางระบบออนไลน์จากสหราชอาณาจักร สถานที่ที่เขาเดินทางไปแสดงคอนเสิร์ต ทั้งนี้ หลังจากการพิจารณาคดีแล้วเสร็จ เดปป์ได้ออกแถลงการณ์ส่วนตัวว่า “ลูกขุนได้มอบชีวิตผมคืนกลัมา ผมขอรับมันด้วยความนอบน้อมอย่างสูงสุด” ก่อนปิดท้ายแถลงการณ์ของตนเองว่า “ความจริงไม่มีวันสูญสิ้น” ในภาษาลาติน
ในแถลงการณ์ของเดปป์ยังได้ระบุอีกว่า “ผมหวังว่าภารกิจในการทำให้ความจริงได้ถูกเล่าออกมานั้น จะช่วยให้ผู้คนอื่นๆ ทั้งชายและหญิง ผู้ที่พบว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับผม และผู้ที่กำลังมอบความสนับสนุนให้แก่พวกเขาจะไม่ยอมแพ้”
ทั้งนี้ ผู้พิพากษาได้ลดค่าชดเชยความเสียหายที่มอบให้กับเดปป์ลงเหลือ 350,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 12 ล้านบาท) ซึ่งเป็นไปตามขีดค่าชดเชยความเสียหายสูงสุดของกฎหมายมลรัฐเวอร์จิเนีย ทำให้เดปป์จะได้รับเงินชดเชยรวมทั้งสิ้น 10.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 357 ล้านบาท) ในขณะที่เฮิร์ดไม่ได้รับเงินชดเชยใดๆ ทั้งนี้ เดปป์ฟ้องเรียกค่าชดเชยและค่าเสียหายจากเฮิร์ดในตอนยื่นคำร้องที่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.7 พันล้านบาท) ในขณะที่เฮิร์ดเรียกค่าชดเชยและค่าเสียหายจากเดปป์กลับ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.4 พันล้านบาท)
เฮิร์ดที่เข้ามาฟังการอ่านคำตัดสินนั่งอยู่ในอาการนิ่งหน้าตาย เธอออกแถลงการณ์ระบุว่าตน “หัวใจแตกสลาย” เธอโต้แย้งว่าลูกขุนเมินเฉยต่อหลักฐานของฝั่งเธอ ทั้งนี้ เฮิร์ดไม่มีหลักฐานยืนยันถึงการถูกทำร้ายร่างกายใดๆ นอกจากภาพถ่ายของตน ซึ่งถูกผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามีการดัดแปลงรูปภาพเกิดขึ้น นอกจากนี้ เดปป์ยังมีพยานหลักฐานพร้อมพยานบุคคลที่ขึ้นให้การสนับสนุนตน พร้อมหลักฐานต่างๆ ที่ช่วยมัดตัวว่าเฮิร์ดโกหกต่อโลกว่าอดีตสามีของเธอใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายตน
“ฉันเสียใจที่แพ้คดีนี้ แต่ฉันเสียใจมากยิ่งกว่าเมื่อดูเหมือนว่าฉันได้สูญเสียสิทธิที่ฉันคิดว่าตัวเองมีอยู่ในฐานะคนอเมริกัน สิทธิในการพูดอย่างเสรีและเปิดเผย” เฮิร์ดระบุ ทั้งนี้ ภาพยนตร์อาควอแมนที่เธอร่วมแสดงด้วยจะออกฉายในปลายปีนี้ ในทางตรงกันข้าม เดปป์ถูกถอดออกจากภาพยนตร์ดังทั้งหมดของตัวเอง และสูญเสียบทสำคัญอย่าง กัปตันแจ็ก สแปร์โรว์ ในภาพยนตร์ไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียนไป จากข้อกล่าวหาของเฮิร์ดว่าเขาทำร้ายร่างกายเธอไปก่อนหน้านี้
เมื่อสองปีก่อน ศาลของสหราชอาณาจักรตัดสินว่าหนังสือพิมพ์ The Sun ไม่มีความผิดจากการที่ตนพาดหัวเรียกเดปป์ว่าเป็น “คนซ้อมเมีย” อย่างไรก็ดี คำตัดสินของศาลมลรัฐเวอร์จิเนียที่พิจารณาหลักฐานอย่างถี่ถ้วนช่วยพลิกโชคชะตาของเดปป์กลับมาอีกครั้ง และล้างมลทินของเดปป์ว่าตนไม่เคยทำร้ายร่างกายอดีตภรรยา แต่ในทางตรงกันข้าม เฮิร์ดที่แพ้คดีระบุว่า การตัดสินคดีในครั้งนี้ “ย้อนนาฬิกาถอยเวลากลัยไปถึงครั้งที่เมื่อผู้หญิงออกมาพูด และการพูดออกมาอาจทำให้เธอถูกประณามและหยามหมิ่นต่อสาธารณะ”
การสู้คดีดำเนินต่อมาอีกครั้ง หลังจากที่เฮิร์ดเขียนบทความลงใน The Washington Post เมื่อปี 2561 โดยเธอเรียกตนเองว่าเป็น “บุคคลสาธารณะที่เป็นภาพแทนของการใช้ความรุนแรงในครอบครัว” อย่างไรก็ดี เฮิร์ดเขียนบทความโดยไม่ระบุถึงชื่อของอดีตสามีตน แต่เดปป์อ้างว่า บทความดังกล่าวสามารถตีความหมายถึงตัวเขาได้ และมันส่งผลกระทบต่ออาชีพของเขาอย่างมหาศาล
ที่มา: