วันที่ 19 พ.ย. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 แถลงบทสรุปการประชุมเอเปค ปีนี้ โดยเริ่มต้นว่า ก่อนอื่นตนขอแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีฯ ได้เสด็จออกทรงรับผู้นำเอเปค คู่สมรส และแขกพิเศษ ภายในพระบรมมหาราชวัง นำมาซึ่งความปรับปลื้มปิติแก่คณะผู้เข้าร่วมประชุมและคนไทยทุกคน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การประชุมเอเปคครั้งที่ 29 จบลงแล้วด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม ตนถือว่าเป็นความสำเร็จร่วมกันของสมาชิกเอเปค และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งทุกคนต้องการเห็นเอเปคยืนหยัดทำงาน ท่ามสภาวะสถานการณ์โลกที่ผันผวนเพื่อสร้างการเติบโตและอนาคตของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาไทยได้ต้อนรับคณะผู้นำ สื่อต่างชาติ รวมกว่า 5 พันคน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคได้มาประชุมแบบพบหน้า โดยการประชุมครั้งนี้ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ยังได้หารือกับแขกพิเศษ ได้แก่ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส มกุฎราชกุมารฯและนายกซาอุฯ ซึ่งตนยังได้รับมุมมองจากเยาวชนเอเปค
ทั้งนี้ตนขอเรียนว่า การที่มีการกล่าวถึงอาวุธนิวเคลียร์ในที่ประชุมไทย ในฐานะเจ้าภาพและตนก็เชื่อว่าทุกคนห่วงใยในเรื่องดังกล่าว ซึ่งได้มีการหารือกันไปแล้ว นอกจากนี้ตนได้รับรองปฏิญญาเขตธุรกิจเอเปค 2022 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานของเอเปค 2022 ตลอดทั้งปีที่มีแนวคิดเศรษฐกิจบีซีจี เพิ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนเครื่องยนต์ที่สำคัญ ในการขับเคลื่อนผลลัพธ์รูปธรรม 3 ประการ คือ เปิดกว้าง ผูกพัน เชื่อมโยงกันสู่สมดุล และยังมีการหารือเพื่อเตรียมพร้อมการค้าการลงทุนในใหม่ รวมทั้งหารือเพื่อรับมือวิกฤตใหม่ในอนาคต
สำหรับการเป็นเจ้าภาพเอเปคปี 2565 ของไทย ได้สิ้นสุดลงแล้ว ตนได้ส่งมอบหน้าที่นี้ให้แก่สหรัฐฯ ที่จะเป็นเจ้าภาพเอเปคในปี 2566 ตนมั่นใจว่าสหรัฐจะสานต่อภารกิจที่ไทยริเริ่มไว้ โดยเฉพาะการส่งเสริมการเติบโตอย่างครอบคลุมและยังยืนในภูมิภาค
ทั้งนี้ก่อนเดินทางกลับผู้สื่อข่าวสอบถามนายกฯ เหนื่อหรือไหม พล.อ.ประยุทธ์ โบกมือทักทาย พร้อมระบุว่า ไม่เหนื่อยหรอก