วันที่ 28 เม.ย. 2565 ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อ้างว่าการประกาศนโยบาย 5 ข้อของ แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตรกรรม พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เรื่องใหม่และเป็นเรื่องที่รัฐบาลทำอยู่แล้วว่า เท่าที่ได้ติดตามการทำงานของรัฐบาล ยังไม่เห็นนโยบายใดที่ชัดเจน สร้างการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีให้กับประเทศที่ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรมจับต้องได้แม้แต่ชิ้นเดียว
ชญาภา กล่าวอีกว่า เมื่อย้อนกลับไปดูนโยบายหาเสียงของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ ต้องตั้งคำถามว่าได้ทำตามที่หาเสียงไว้หรือไม่ และการไม่ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ เรียกว่าเข้าข่ายหลอกลวงได้หรือไม่ เพราะหากนโยบายสำเร็จและเป็นรูปธรรมจริง ผลประโยชน์ย่อมตกอยู่กับพี่น้องประชาชนเป็นที่ประจักษ์ และถ้าหากการบ้าน 5 ข้อของ แพทองธารที่นำเสนอทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลทำมาโดยตลอด ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคงไม่ยากลำบากขนาดนี้ โดยเฉพาะการปล่อยปละละเลยให้เด็กและเยาวชนเผชิญกับชะตากรรมความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจากการเข้าไม่ถึงเครื่องมือเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต จนทำให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาอย่างต่อเนื่องทุกปี
ทั้งนี้ในการนำเสนอนโยบาย 5 ข้อของแพทองธาร เป็นการแสดงวิสัยทัศน์และการสร้างความหวังให้กับประชาชน ที่เอือมระอาและหมดหวังกับรัฐบาลปัจจุบัน สะท้อนไปถึงผู้มีอำนาจในขณะนี้ว่าประเทศต้องการการเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อนด้วยผู้นำที่มีความรู้ความเข้าใจ ก้าวทันโลกอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่จมปลักแบบนี้เกือบทศวรรษ พรรคเพื่อไทยเต็มไปด้วยผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มากประสบการณ์ และยังมีคนรุ่นใหม่หลากหลายสาขาอาชีพที่พร้อมทำงานสอดประสานกันอย่างลงตัว และในช่วงที่ผ่านมาพิสูจน์ว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทย พลังประชาชน และไทยรักไทย ที่มาจากรากเดียวกัน ได้ออกนโยบายที่พูดแล้วทำได้จริง จนสร้างความไว้วางใจของพี่น้องประชาชนจนได้มาเป็นรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้ผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การประกาศนโยบายของ แพทองธาร คิด พิจารณา ไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนถึงผลงานของตนเองก่อนค่อยวิจารณ์ผู้อื่น
“นอกจากพรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้ริเริ่มนโยบายดีๆ หลายนโยบายที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนแล้ว ยังเป็นต้นแบบให้กับหลายพรรคการเมืองนำไปทำตามด้วย หากนโยบายใดมีประโยชน์กับพี่น้องประชาชน พูดแล้วทำได้จริงและเป็นรูปธรรมจับต้องได้ ไม่ใช่เพียงแค่ลมปาก พรรคเพื่อไทยก็พร้อมเปิดกว้างเสมอ” ชญาภา กล่าว