สำนักข่าว CNN รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิด 3 แหล่งระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงทางการเลือกตั้งประจำสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ ยื่นข้อมูลต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ โดยระบุว่าทางสำนักงานหน่วยข่าวกรองเชื่อว่าขณะนี้รัฐบาลรัสเซียได้เริ่มต้นกระบวนการแทรกแซงการเลือกตั้งประจำปี 2020 ของสหรัฐฯ แล้ว โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการช่วยให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ สามารถครองตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไป 

The New York Times รายงานว่าในการประชุมร่วมกันของสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ และ ส.ส.สหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยข่าวกรองได้รายงานถึงแผนการต่างๆของรัสเซียที่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานการแฮกข้อมูล การใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือ และการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของการเลือกตั้งสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัสเซียมีความต้องการจะทำให้นายทรัมป์ชนะเลือกตั้งอย่างชัดเจน แต่มีหลักฐานบางอย่างแสดงให้เห็นเช่นกันว่า แผนการของรัสเซียมีนั้นถูกออกแบบมาเพื่อทำให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับความโปร่งใสของกระบวนการเลือกตั้งสหรัฐฯ เช่นกัน

ด้านนายทรัมป์ได้แสดงความไม่พอใจอย่างมากไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยเจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาวยืนยันว่าทรัมป์แสดงอารมณ์โมโหทันทีในที่ประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากทราบว่า นายโจเซฟ แมกไกวร์ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ อนุญาตให้มีการนำเรื่องความพยายามในการแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ของรัสเซีย เข้าสู่ที่ประชุมร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้

ทั้งนี้ สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ เชื่อว่าการแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ของรัสเซียเมื่อปี 2549 นั้น มีเป้าหมายสำคัญในการช่วยให้นายทรัมป์ชนะเลือกตั้งจนสามารถครองตำแหน่งประธานาธิบดีได้ รวมถึงเป็นการจงใจช่วยโจมคู่แข่งในขณะนั้นอย่างนางฮิลลารี คลินตัน จนนำไปสู่ กระบวนการไต่สวนของ นายโรเบิร์ต มุลเลอร์ อัยการพิเศษสหรัฐฯ ว่าแท้จริงแล้วนายทรัมป์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ของรัสเซียหรือไม่

การเลือกตั้งในปีนี้จะเป็นบททดสอบที่ท้าทายของหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ว่าจะสามารถรับมือกับประเด็นการถูกแทรกแซงจากต่างชาติได้หรือไม่