ไม่พบผลการค้นหา
'อนุทิน' ยัน ภท.ไม่เคยกังวลการทำงานของ กกต. บอก 3 วัน ลต. ถ้ากังวลก็เตรียมตัวแพ้ ไม่มีปัญหา 'ทักษิณ' จะกลับไทย ยินดีที่ประกาศจะกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ย้ำความเคารพนับถือเหมือนเดิมไม่ได้ลดน้อยลง เมิน 'ชูวิทย์' โจมตี ยันกระแสพรรคดี เตือน ขรก.อย่าสั่ง อสม.ทำเรื่องเอี่ยวการเมืองอาจมีความผิด

อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.นี้ หลังจากที่สังคมเฝ้าจับตา ว่า พรรคภูมิใจไทยไม่เคยกังวลการทำหน้าที่ของ กกต. ไม่มี และอีก 3 วันเลือกตั้ง ฉะนั้นหากวันนี้ยังกังวลอยู่ก็เตรียมตัวแพ้ได้แล้ว พร้อมย้ำว่าไม่ต้องมีอะไรกังวลแล้ว เพราะสิ่งต่างๆ ได้ทำมาหมดแล้ว ทั้งการเตรียมพร้อมของผู้สมัคร นโยบายต่างๆของพรรคได้มีการกระจายไปแล้ว ตอนนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน พร้อมยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่มีเจ้าหน้าที่ของพรรคไปเฝ้าดูประจำเขตเลือกตั้ง แต่อาจจะเป็นทีมงานของผู้สมัคร ที่จะไปลุ้นผลคะแนนว่าจะไม่มีการเอารัดเอาเปรียบเท่านั้น

ส่วนกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศกลับประเทศไทยในช่วงรัฐบาลรักษาการนั้น อนุทิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายทักษิณ ก็ต้องไปถามผู้เกี่ยวข้อง ตนอยู่กระทรวงสาธารณสุขซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า กระแสการกลับมาของ ทักษิณ จะมีผลต่อรัฐบาลชุดปัจจุบันหรือไม่ นายอนุทิน มองว่า คนไทยทุกคนสามารถเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดเมืองนอนได้ เข้าออกได้โดยอิสระที่มีกฎหมายอยู่ หากกฎหมายเขาว่าอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น ใครมีข้อจำกัดใดๆ ด้านกฎหมายก็มาปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย ก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว พร้อมขอว่าอย่าไปผูกกับเรื่องการเมือง เพราะหากไปดูที่ทวิตเตอร์ของท่าน ก็ระบุว่าอยากจะกลับมาเลี้ยงหลาน เพราะมนุษย์เราดีใจที่สุดเมื่อมีลูก และพอลูกโตไปก็หวังหลาน แล้วตอนนี้ท่าน (ทักษิณ) มีหลานใหม่ๆ เกิดขึ้นมา หลายคนก็บอกว่าจะกลับมาเลี้ยงหลาน มันก็เป็นสิทธิ์ ขออย่าไปผูกทุกเรื่องกับการเมือง

เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ประกาศจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจะมีผลอย่างไร อนุทิน ระบุว่า ต้องถามท่าน แต่ก็ดีแล้วที่ท่านบอกว่าจะกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็แสดงว่าท่านพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย

เมื่อถามต่อว่า อยากจะฝากบอกอะไรกับทักษิณ ในฐานะที่เคยทำงานร่วมกันมาหรือไม่ อนุทิน ยืนยันว่า ความเคารพนับถือกับท่าน ตนยังเหมือนเดิมไม่ได้ลดน้อยลงเลย ขอแสดงความยินดีกับคุณตาของหลานทั้ง 7 คน ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นคนที่มีบุญ ตนยังไม่มีสักคนเลยหลาน อยากมี

เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้งถ้าพรรคภูมิใจไทยได้กลับมาจะยังคงยึด 3 กระทรวงหลักหรือไม่ อนุทิน ระบุว่า สื่อถามอย่างนี้ก็ไม่ตอบ เพราะภูมิใจไทยมีสิทธิ์อะไรไปยึด 3 กระทรวง พรรคภูมิใจไทยเป็นใครที่จะไปยึดกระทรวง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เพราะกระทรวงเป็นสถานที่ราชการ การจะเข้ามาต้องความชอบธรรมโดยผ่านการตัดสินใจของประชาชนและเลือกตั้ง อยู่ดีๆ จะเข้ามาได้ที่ไหน หรือผ่านการฟอร์มเป็นรัฐบาล ซึ่งจะได้เป็นสบายหรือเปล่าก็ไม่รู้ พร้อมย้ำว่าทุกกระทรวงดีหมด ไม่มีกระทรวงดีดีหรือกระทรวงห่วยๆ เพราะทุกกระทรวงกว่าจะมีได้ต้องทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมืองและประเทศชาติ พร้อมย้ำว่าจะไปบอกว่ายึดกระทรวงโน้นกระทรวงนี้ไม่ได้

ส่วนกรณีที่ ชูวิทย์ ออกมาโจมตีเรื่องกัญชา ตอนนี้จะส่งผลกระทบต่อกระแสคะแนนเสียงพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ อนุทิน ระบุว่า ดีขึ้นเยอะเลย และสัปดาห์ก่อนตนไปร่วมงานเสวนาการใช้กัญชา กันชงทางการแพทย์ ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนกฏหมายการใช้ควบคุมขณะนี้ก็นำมาดำเนินการใช้หมด ระหว่างรอร่างฯ พ.ร.บ. นำกลับมาพิจารณาอีก โดยยืนยันว่าจะมาเถียงเรื่องนี้กับกระทรวงสาธารณสุขสุขที่ทำมา 4 ปี ไม่ได้หรอก

ส่วนกรณีที่มีข่าว อสม. เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งนั้น นายอนุทิน ระบุว่า อสม.อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อปฎิบัติหน้าที่ แต่นอกเหนือเวลาที่ปฎิบัติหน้าที่เขาก็คือประชาชนคนหนึ่ง กระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถไปออกแนวนโยบายให้กับ อสม.ได้ พร้อมย้ำว่า อสม. ไม่ใช่ข้าราชการ ไม่ใช่ลูกจ้างของกระทรวง แต่เป็นอาสาสมัคร ซึ่งอยู่คนละขั้นตอนกัน ส่วนที่มีการพยายามจะให้ออกคำสั่งกับ อสม. ออกคำสั่งไม่ได้ถ้าออกก็ผิด พร้อมย้ำว่าเจ้าหน้าที่ที่ไปออกคำสั่งให้ อสม.ทำเรื่องเกี่ยวกับการเมืองก็ต้องระวังด้วยอาจจะมีความผิด เพราะเป็นข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลาง

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยในฐานะเป็นพรรคขนาดกลางหรือพรรคขนาดใหญ่ หลังการเลือกตั้งได้วางเป้าไว้หรือไม่ว่าจะต้องเป็นรัฐบาล อนุทิน ถามกลับว่าใครบอก ก่อนระบุว่าต้องอยู่ที่พี่น้องประชาชน เพราะพรรคการเมืองไม่สามารถจะมาบอกว่าเป็นโน้นเป็นนี่ได้ จนกว่าประชาชนจะตัดสินใจว่าจะให้เค้าทำบทบาทหน้าที่อะไร ต้องเป็นขั้นตอน เพราะตอนนี้สื่อกำลังถามขั้นตอนที่สี่ ทั้งที่ขั้นตอนที่หนึ่งยังไม่เรียบร้อย โดยตอนนี้พรรคภูมิใจไทยให้ความสำคัญกับการทำให้ผู้สมัครของพรรคเดินเข้าสู่สภาให้มากที่สุด ซึ่งอันนี้เป็นเป้าหมายแรกหลังจากนั้นยังไม่คิด พร้อมย้ำว่ายังไม่คิดถึงจุดหมายปลายทางขอให้ไปทีละขั้น