ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.15 น. ที่บริเวณหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อติรุจ อายุ 25 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 นายควบคุมตัวไป ระหว่างขบวนเสด็จของรัชกาลที่ 10 และพระราชินี
กระทั่งต่อมา เวลา 22.17 น. จึงทราบว่าเขาถูกควบคุมไว้ที่ สน.ลุมพินี หลังทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้าถึงตัวผู้ถูกจับกุมได้ พบว่า เจ้าหน้าที่ ตร. จัดทำบันทึกจับกุมโดยระบุว่า อติรุจถูกจับกุมจากการถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “หมิ่นประมาทฯ กษัตริย์” ตามมาตรา 112 และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนยังไม่ได้เริ่มการสอบสวนและแจ้งข้อหา
บันทึกจับกุมโดยสรุป กล่าวหาว่า ก่อนและระหว่างขบวนเสด็จขากลับของ ร.10 - ราชินี พบว่า อติรุจไม่ยอมนั่งลง เพื่อรอรับเสด็จเช่นประชาชนคนอื่น เมื่อขบวนเสด็จเคลื่อนผ่าน กล่าวหาอติรุจที่ยืนอยู่ไม่ยอมนั่งลงตะโกนว่า “ไปไหนก็เป็นภาระ” ขณะที่ประชาชนคนอื่นตะโกนเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ”
โดยเขาถูกคุมตัวอยู่ที่ สน.ลุมพินี จนถึงช่วงเช้าวันที่ 17 ต.ค. ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะยื่นขอฝากขังกับศาลอาญากรุงเทพใต้ เบื้องต้นพบว่า อติรุจได้รับบาดเจ็บหลายจุดหลังถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่กว่า 10 นาย พบมีรอยถลอก 3 จุด ที่ข้อเท้าซ้าย ข้อศอกซ้ายและขวา ส่วนนิ้วกลางขวาพบว่าเล็บฉีก ผู้ถ่ายคลิปจับกุมได้เผยว่า เจ้าหน้าที่ใช้วิธีอุ้มและใช้มือปิดปากอติรุจไม่ให้ส่งเสียง ก่อนพาไปใส่กุญแจมือในศูนย์ประชุมฯ
ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งให้ฝากขัง ‘อติรุจ’ เป็นเวลา 12 วัน หลังพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินียื่นฝากขังครั้งที่ 1 ทนายความจึงได้ยื่นประกันตัวต่อทันที ซึ่งต่อมาศาลอนุญาตให้ประกันด้วยวงเงิน 200,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ อติรุจจึงจะได้รับการปล่อยตัวหลังถูกคุมตัวอยู่นาน 2 คืน