นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับ 4 องค์กรชาวไร่อ้อย(สมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย สถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน และสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย) ที่ห้องประชุมกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ซึ่งเป็นการหารือเรื่อง ขอความช่วยเหลืองบประมาณตัดอ้อยสดคุณภาพดี ช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ปี 2566/67 120 บาท/ตัน ซึ่งการตัดอ้อยสดชาวไร่มีต้นทุนที่สูงกว่าอ้อยไฟไหม้ ทำให้มีอ้อยสดเพิ่มขึ้น
นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมกับตัวแทนเกษตรกรชาวไร่อ้อย ซึ่งมีความเดือดร้อน ขอให้ช่วยเหลืองบประมาณตัดอ้อยสดคุณภาพดีช่วยลดฝุ่น PM 2.5 120 บาท/ตัน ที่ผ่านมาชาวไร่อ้อยซึ่งยากลำบาก ได้ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลทำการตัดอ้อยสด ซึ่งมีต้นทุนมีความยากลำบากมากกว่าปกติ ช่วยลดปัญหาการเผาอ้อย จึงอยากขอเงินชดเชย 120 บาท/ตัน ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องก่อนรัฐบาลเศรษฐา ที่ดำเนินการโครงการนี้มาแล้ว 3 ปี ปีที่แล้วเป็นการจ่ายงวดสุดท้าย ตามมติ ครม.
ในฐานะที่ตนเป็นผู้ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ โดยสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) และตัวแทนเกษตรกร โรงงาน และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง หารือกัน ให้ สอน. ดำเนินการเรียกประชุมให้ได้ข้อสรุปภายในหนึ่งเดือน ว่าโครงการที่ดำเนินการมาแล้ว 3 ปี ประสบความสำเร็จหรือไม่อย่างไร ต้องแก้ไขปรับปรุงอย่างไร จะต่อโครงการ ลดทอนเงินหรือควรเพิ่มเงิน ให้ไปคุยในรายละเอียดให้มีข้อสรุปที่ชัดเจน เพื่อนำเข้า ครม. ต่อไป
“การที่เกษตรกรทำอ้อยสดเป็นทิศทางที่ต้องทำ เพราะปีหน้าระเบียบการค้าโลกใหม่จะเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นเราจะไม่สามารถส่งออกนอกประเทศได้ ซึ่งจะกระทบหนักมาก ขอขอบคุณตัวแทนกลุ่มชาวไร่อ้อยที่ช่วยกันรณรงค์และปฏิบัติในการลดมลพิษ”นายภูมิธรรม กล่าว
ด้านตัวแทนกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อย กล่าวว่า รู้สึกสบายใจและดีใจแทนพี่น้องชาวไร่อ้อยทั้งประเทศ ที่ท่านรองนายกช่วยชี้แนะให้แนวทาง และให้ความหวังกับพี่น้องชาวไร่อ้อย เห็นความยากลำบากซึ่งเกษตรกรพร้อมดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ในการลดฝุ่น PM 2.5 ตัดอ้อยสดให้สามารถแข่งขันส่งออกต่างประเทศได้
ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ระบุว่า ปัจจุบันมีชาวไร่อ้อยประมาณ 200,000 ครัวเรือน โดยในปี 2566/67 มีพื้นที่ปลูก 9.32 ล้านไร่ ลดลง 0.92 ล้านไร่(-9%) มีปริมาณอ้อยสด 57.81 ล้านตัน (70%) และอ้อยไฟไหม้ 27.36 ล้านตัน (30%) ปริมาณอ้อยไฟไหม้ลดลงจากปีก่อน -21%