ไม่พบผลการค้นหา
'พิชัย' ชี้ 'ประยุทธ์' หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศแล้ว แนะลาออกเร็วที่สุดก่อนจะไม่มีแผ่นดินจะอยู่ เชื่อทีมเศรษฐกิจคนรุ่นใหม่ของพรรคเพื่อไทยพร้อมแก้ไขเศรษฐกิจทุกด้าน

พิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า การเปิดประชุมสภาฯ วิสามัญเพื่ออภิปรายครั้งนี้ รัฐบาลต้องการใช้การประชุมนี้เพื่อจะฟอกขาวตัวเองเท่านั้น หลังจากที่มีผู้ชุมนุมจำนวนมากที่ประกอบด้วยนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ออกมาขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งหลังจากได้ยินคำแถลงของนายกรัฐมนตรีแล้ว แสดงอย่างชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ขาดความสำนึกที่จะรับรู้ได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดที่เกิดมาจากพล.อ.ประยุทธ์ทั้งสิ้น ซึ่งหากพล.อ.ประยุทธ์ ลาออกไป ปัญหาต่างๆจะลดทอนลงไปมาก และอาจจะหมดไปในที่สุด 

การที่พล.อ.ประยุทธ์อ้างความสำเร็จของการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง แต่อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฟัง สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ที่ปรึกษา ที่ยอมรับเองว่าการป้องกันไวรัสโควิดประเทศไทยได้ที่หนึ่ง แต่เศรษฐกิจไทยได้ที่โหล่ ซึ่งหมายถึงเศรษฐกิจของประเทศไทยจะขยายตัวติดลบมากที่สุดในเอเชียตะวันออก ซึ่งประชาชนจะลำบากกันอย่างมาก และจะมีคนตายจากพิษเศรษฐกิจมากกว่าคนตายจากไวรัสโควิดมาก ทุกวันนี้ก็มีข่าวการฆ่าตัวตายอยู่แทบทุกวัน โดยล่าสุดมีอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นถึง 22% เลย 

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังพูดเหมือนไม่เข้าใจสาเหตุที่นักเรียน นักศึกษา และประชาชน จำนวนมากออกมาชุมนุมขับไล่พลเอกประยุทธ์เลย ซึ่งสาเหตุหลักมาจากที่พวกเขาไม่เห็นว่าผู้นำมีความรู้ความสามารถเพียงพอ ขาดวิสัยทัศน์ ขนาดออกความเห็นยังผิดมาตลอด เขาไม่เห็นอนาคตของพวกเขาเลยจากฝีมือการบริหารของพล.อ.ประยุทธ์ ที่พิสูจน์ว่าล้มเหลวแล้วมาตลอด 6 ปี โอกาสในการหางานทำหลังเรียนจบแทบไม่มีเลยแม้ว่าจะขยันเรียนแค่ไหน อนาคตไม่รู้จะหารายได้ได้อย่างไร อีกทั้งล่าสุด สื่อหลักต่างประเทศอย่าง วอลล์ สตรีท เจอร์นัล ยังบอกว่าเศรษฐกิจไทยอาจจะย่ำแย่หนักเหมือนสมัยต้มยำกุ้งในปี 2540 ซึ่งพลเอกประยุทธ์จะไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะรับมือได้ 

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังได้สั่งให้มีการสลายการชุมนุมที่มีทั้ง นักเรียน นักศึกษาจำนวนมากที่แยกปทุมวันในวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผิดต่อหลักการสากล ผู้ชุมนุมชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธและไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดความรุนแรง แต่โดนตำรวจปราบจราจลเข้าสลายการชุมนุมอย่างเต็มชุด ทั้งโล่และกระบอง มีทั้งรถฉีดน้ำแรงสูงผสมสารเคมี และมีการใช้แก๊สน้ำตา ซึ่งข่าวการสลายการชุมนุมได้กระจายไปทั้วโลกแล้ว ซึ่งจะทำให้ความเชื่อถือของพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีเหลือแล้ว ตอกย้ำข่าวทางด้านลบที่มีมาตลอด 6 ปีที่มีการคุกคามผู้เห็นต่าง ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์จะไม่สามารถฟื้นเศรษฐกิจได้เลย อยู่ไปก็จะเป็นการถ่วงความเจริญของประเทศ ดังนั้นพลเอกประยุทธ์ควรจะต้องรีบลาออกก่อนจะเกิดความรุนแรง ซึ่งจะทำให้พล.อ.ประยุทธ์อาจจะไม่สามารถอยู่ในประเทศไทยได้อีกต่อไป และต้องหนีไปต่างประเทศ 

ทั้งนี้ หากได้ติดตามข่าวเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย ในช่วง 1-2 อาทิตย์ที่ผ่านมา จะเห็นว่าพรรคเพื่อไทยได้แสดงให้เห็นความพร้อมทางเศรษฐกิจของคนรุ่นใหม่ของพรรคอย่างเต็มที่ เช่น จิราพร สินธุไพร ส.ส. ร้อยเอ็ด ที่ชำนาญทางด้านพาณิชย์และราคาสินค้าเกษตร, จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ ชำนาญด้านการท่องเที่ยว, กฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย อดีตรองเลขาฯ สภาอุตสาหกรรม ที่ชำนาญด้านอุตสาหกรรม และ SMEs, เผ่าภูมิ โจนกุล รองเลขาธิการพรรค ที่ชำนาญเศรษฐกิจมหภาค, จักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรค ที่ชำนาญตลาดเงิน ตลาดทุน เป็นต้น และจะมีบุคคลากรทางเศรษฐกิจทยอยเปิดตัวออกมาอีกมาก ซึ่งอยากให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมเข้ามาแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ หากได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในอนาคต