ต่างประเทศ
อิหร่านเผยยอดตายประท้วงทะลุ 200 ด้านองค์กรสิทธิค้าน ชี้เลขจริงมีมากกว่าเท่าตัว
ในเอกสารที่ถูกเผยแพร่เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) สภาความมั่นคงแห่งรัฐ ซึ่งสังกัดกระทรวงมหาดไทยอิหร่าน ออกมาเปิดเผยตัวเลขการตายที่พุ่งสูงขึ้นเป็นครั้งแรก โดยแถลงการณ์ระบุว่า ตัวเลขการตายทั้งหมดเกิดขึ้นจากการ “ก่อจลาจล”
จากแถลงการณ์ยังระบุอีกว่า ตัวเลขการตายยังหมายรวมถึงเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งถูกสังหารจาก “การกระทำของกลุ่มก่อการร้าย” กลุ่มผู้ฝักใฝ่ต่างชาติ และกลุ่มผู้ถูกสังหารโดยรัฐ โดยเฉพาะ “ผู้ก่อจลาจล” และ “กลุ่มติดอาวุธต่อต้านการปฏิวัติที่เป็นสมาชิกของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน”
หน่วยงานความมั่นคงอิหร่านยังรายงานอ้างถึงตัวเลข “ผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตในช่วงที่ความสงบของประเทศกำลังระส่ำระสาย” แต่ทางการอิหร่านไม่ได้เปิดเผยว่า กลุ่ม “ผู้บริสุทธิ์” ถูกสังหารด้วยวิธีการใด
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่วัน หลังจาก อาเมียร์ อาลี ฮาจิซาเดห์ นายพลระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) กล่าวว่า มีประชาชนมากกว่า 300 คนที่ “พลีชีพและถูกสังหาร” ระหว่างเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นทั่วทั้งประเทศ
ตัวเลขดังกล่าวมีต่ำกว่าตัวเลขซึ่งองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ได้ออกมารายงานก่อนหน้า ซึ่งระบุว่ามีผู้เสียชีวิตระหว่างเหตุการณ์ประท้วงทั่วอิหร่านมากกว่า 400 ราย
การประท้วงปะทุขึ้นทั่วอิหร่าน ไม่นานหลังจากวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากการตายของ มาห์ชา อามินี หญิงวัย 22 ปี ที่ถูกจับกุมตัวโดย “ตำรวจศีลธรรม” ในกรุงเตะหราน โดยข้อกล่าวหาว่า เธอไม่แต่งตัวถูกต้องตามหลักการทางศาสนา ก่อนที่อามินีจะถูกทำร้ายร่างกายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทางการอิหร่านออกมากล่าวหาสหรัฐฯ อิสราเอล สหราชอาณาจักร และซาอุดีอาระเบียว่าอยู่เบื้องหลังความไม่สงบในครั้งนี้ โดยถ้อยแถลงของหน่วยงานความมั่นคงเมื่อวันเสาร์ ยังเน้นย้ำถึงบทบาทของการแทรกแซงจากต่างประเทศในการประท้วง โดยกล่าวว่าประเทศกำลังเผชิญกับ “สงครามลูกผสม” ที่ยืดเยื้อ จากฝีมือของรัฐที่เป็นปฏิปักษ์และกลุ่มสื่อ “ผู้ก่อการร้าย”
“สิ่งที่ประชาชนเห็นในวันนี้ไม่ใช่การประท้วงดื้อแพ่ง แต่เป็นการทำลายล้าง ความรุนแรง และความไม่ปลอดภัยโดยกลุ่มผู้ก่อการจลาจลคนกลุ่มน้อย” แถลงการณ์ของสภาความมั่นคงอิหร่านระบุ
ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติเรียกร้องให้ทางการอิหร่านละเว้นจากการใช้ “กำลังที่ไม่สมส่วน” ในการตอบโต้การประท้วง และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองจำนวนหนึ่ง อีกทั้งคัดค้านโทษประหารชีวิต ต่อกรณีผู้ต้องโทษที่เชื่อมโยงกับการประท้วง
นอกจากนี้เมื่อเดือนที่แล้ว คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติลงมติให้เริ่มภารกิจค้นหาข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ประท้วง ส่งผลให้ทางการอิหร่านออกมาประณามว่า มติดังกล่าวเป็นความพยายาม “ทางการเมือง” และทางการอิหร่านจะไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบใดๆ
ที่มา:
