กูแตร์เรสแสดงความเห็นในทวีตส่วนตัวดังกล่าว จากการได้เห็นภาพพลเรือนชาวยูเครนหลายรายนอนเสียชีวิตอยู่ข้างถนนในเมืองบูชาของยูเครน หลังจากกองทัพรัสเซียที่เข้าล้อมกรุงเคียฟและเมืองในบริเวณโดยรอบอย่างหนักกว่า 5 สัปดาห์ที่ผ่านมาตัดสินใจถอนกำลังออก โดยรัสเซียอ้างว่าตนได้ปฏิบัติการในระยะแรกสำเร็จแล้ว และจะมุ่งหน้าทุ่มสรรพกำลังในการปลดแอกภูมิภาคดอนบาส ตะวันออกของยูเครนต่อไป
การถอนกำลังของกองทัพรัสเซียถูกคาดการณ์ว่าเกิดขึ้นจากการที่รัสเซียไม่สามารถบุกยึดกรุงเคียฟและล้มรัฐบาลของ โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนได้ตามเป้าหมายของ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย อย่างไรก็ดี รัสเซียเลือกใช้วิธีการโจมตีแบบสุ่มจนส่งผลให้มีประชาชนผู้บริสุทธิจำนวนมากเสียชีวิต โดยทางการยูเครนรายงานว่า มีประชาชนชาวเมืองบูชาเสียชีวิตจากการล้อมโจมตีของรัสเซียอย่างน้อย 300 ราย
“ผมรู้สึกตกใจอย่างรุนแรงเมื่อได้เห็นภาพประชาชนถูกสังหารในบูชาของยูเครน” กูแตร์เรสระบุ หลังจากผู้นำในโลตะวันตกได้ออกมาประณามรัสเซียต่อการกระทำในเมืองดังกล่าว “มันคือสิ่งสำคัญที่จะมีการตรวจสอบอย่างอิสระ อันจะนำไปสู่ความรับผิดชอบที่มีประสิทธิผล” เลขาธิการองค์การสหประชาชาติระบุ
นอกจากเลขาธิการสหประชาชาติที่ออกมาแสดงความตกใจแล้ว เยอรมนี ฝรั่งเศส สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ยังได้ออกแถลงการประณามรัสเซียจากการสังหารประชาชนกว่าหลายร้อยศพด้วย อย่างไรก็ดี โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีกล่าวว่า เยอรมนีเตรียมพิจารณายกระดับการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมอีก หลังจากเหตุการณ์ในเมืองบูชาได้รับการเปิดเผยออกมา
ในทางตรงกันข้าม กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธการสังหารประชาชนชาวยูเครนในเมืองบูชากว่า 300 ศพ โดยรัสเซียอ้างว่า ภาพและวิดีโอศพที่ได้รับการบันทึกและออกมาเปิดเผยสู่โลกภายนอกนั้น เป็น “การยั่วยุอีกครั้ง” จากทางรัฐบาลยูเครน ทั้งนี้ สื่อและรัฐบาลรัสเซียกล่าวหาว่ายูเครนสร้างข่าวปลอมโจมตีกองกำลังของรัสเซีย ถึงแม้ว่าจะมีหลักฐานบ่งชี้ว่ารัสเซียอาจกระทำการเข้าข่ายอาชญากรสงครามในยูเครนก็ตาม
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนได้ออกมาประณามรัสเซียอีกครั้งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองบูชาช่วยเป็นประจักษ์พยานสำคัญอีกครั้งว่า รัสเซียได้ก่อ “อาชญากรรมสงคราม” ในยูเครนจริง “โลกของเราได้เห็นอาชญากรรมสงครามมมาหลายครั้งแล้ว ในต่างกาลเวลา ในต่างพื้นทวีป แต่นี่คือเวลาที่เราจะต้องทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อให้อาชญากรรมสงครามของกองทัพรัสเซียเป็นการสำแดงครั้งสุดท้ายของความชั่วร้ายดังกล่าวบนโลก” เซเลนสกีกล่าว
ที่มา: