ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 959 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 937 ราย แบ่งเป็น จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 848 ราย จากการเฝ้าระวังและระบบบริการ 89 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 22 ราย ส่วนการระบาดระลอกใหม่ (วันที่ 15 ธันวาคม 2563 – 26 มกราคม 2564) มีผู้ติดเชื้อสะสม 10,409 ราย หายป่วย 6,952 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 3,442 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 15 ราย สำหรับแนวโน้มผู้ติดเชื้อในประเทศในระลอกใหม่หากไม่นับ จ.สมุทรสาคร ถือว่ายังคงตัว สามารถควบคุมได้เป็นไปตามคาดการณ์ ไม่ล้นระบบบริการ
นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า จากข้อมูลผู้ติดเชื้อในระลอกใหม่ พบว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยทำงาน ซึ่ง 65% พบในจังหวัดสมุทรสาครหรือเชื่อมโยงกับกรณีสมุทรสาคร รองลงมาคือการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ เช่น คนในครอบครัว เพื่อนร่วมกิจกรรม 18%
ดังนั้น มาตรการส่วนบุคคลมีความสำคัญยิ่ง ควรลดการกล่าวโทษผู้อื่น และให้ความสำคัญในการดูแลตัวเอง และให้ความร่วมมือกับมาตรการองค์กร จะช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อได้ กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชนในพื้นที่สีแดง เช่น จ.สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดโดยรอบพื้นที่ และเฝ้าระวังในผู้ที่มีอาการเข้าข่ายตามเกณฑ์และขยายการสุ่มตรวจไปในกลุ่มเสี่ยง ผู้ที่มีประวัติไม่ชัดเจนให้ครอบคลุมจำกัดวงการแพร่ระบาดให้เร็วที่สุด ส่วนพื้นที่อื่นๆ เน้นเฝ้าระวังในระบบบริการ และการเฝ้าระวังเชิงรุกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
สำหรับ กรณีผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงงานเลี้ยงวันเกิดคนดังทั้ง 2 งาน ได้ทำการตรวจหาเชื้อและติดตามในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อรวม 24 ราย เป็นชาย 23 ราย หญิง 1 ราย ช่วงอายุระหว่าง 20 - 49 ปี ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่แสดงอาการ 19 ราย มีอาการเด่นชัด คือ ไอ เจ็บคอ มีไข้ และน้ำมูก จากกรณีดังกล่าว ปัจจัยเสี่ยงสำคัญมาจากรับประทานอาหารร่วมกัน สังสรรค์ และการสัมผัสใกล้ชิด จึงขอความร่วมมือประชาชนให้งดหรือเลื่อน การจัดเลี้ยง สังสรรค์ ปาร์ตี้ ออกไปก่อน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด 19
ที่โรงพยาบาลราชวิถี 2 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ได้ลงพื้นที่ติดตามการเตรียมความพร้อมรองรับผู้ติดเชื้อโควิด 19ของโรงพยาบาลราชวิถี 2 ซึ่งขณะนี้เปิดให้บริการเฉพาะแผนกผู้ป่วยนอก ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2563 เนื่องจากอยู่ระหว่างการก่อสร้างหอผู้ป่วยเพิ่มเติม รองรับประชาชนพื้นที่กรุงเทพมหานครโซนเหนือ เน้นเป็นศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉินช่วยลดความแออัดจากโรงพยาบาลราชวิถีและโรงพยาบาลใกล้เคียงใน จ.ปทุมธานี ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกใหม่นี้ พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากในกลุ่มแรงงานข้ามชาติในเขตสุขภาพที่ 4โดยเฉพาะที่ จ.สมุทรสาคร กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายให้โรงพยาบาลราชวิถี 2 ทำหน้าที่รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกแห่งหนึ่ง
สาธิต กล่าวต่อว่า โดยโรงพยาบาลราชวิถี 2 แบ่งพื้นที่การให้บริการเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อาการไม่รุนแรง รวมทั้งจัดให้เป็นที่พักสำหรับบุคลากรที่มีความเสี่ยงสูงจากการปฏิบัติงานดูแลผู้ติดเชื้อ รวมรองรับได้ 120 เตียง รับการส่งต่อจากโรงพยาบาลราชวิถี จังหวัดในเขตสุขภาพที่ 4 และจังหวัดสมุทรสาคร เพิ่มเติมจากโรงพยาบาลสนามของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อลดความแออัดจากโรงพยาบาลอื่น
“ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ในประเทศ เริ่มคงที่ หลายจังหวัดไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเวลามากกว่า 2 สัปดาห์ ส่วนที่ภาคตะวันออก เช่น จ.ระยอง จันทบุรี ตราด ชลบุรี ได้ดำเนินการเชิงรุกคัดกรองนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษา ระบบควบคุมป้องกันโรค โดยมีโรงพยาบาลสนามรองรับถึง 3,000 เตียง ขณะนี้ ผู้ติดเชื้อกลับบ้านหมดแล้ว แต่ยังเตรียมพร้อมหากพบผู้ติดเชื้ออีก อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ดีขึ้น ได้เตรียมเสนอ ศบค.เพื่อพิจารณาผ่อนคลาย ให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้” สาธิต กล่าว
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยความคืบหน้าอาการของ วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ว่า หลังมีการพูดคุยหารือกับทีมแพทย์ผู้ให้การรักษา โดยได้มีการนำน้ำจากหลอดลมส่วนปลาย ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไม่พบเชื้อ ทำให้การตรวจหาเชื้อโควิด-19ในตัวผู้ว่าฯไม่เจอถึง 3 ครั้งทางทฤษฎีไม่มีเชื้อโควิด-19ในร่างกาย และจากการตรวจดูเซลล์จากน้ำในปอดที่ดูดไปเพื่อดูการอักเสบ ประกอบกับตอนนี้ ไม่มีไข้เป็นวัน 2 แล้ว แสดงว่าการติดเชื้อในปอดดีขึ้น เมื่อวานนี้ได้เริ่มให้ยาลดการอักเสบในปอด คนละตัวกับยาปฏิชีวนะ และยาลดการสร้างพังผืดในปอด ตอนนี้รอดูการฟื้นตัวปอดสักระยะหนึ่งก่อน ตอนนี้ถือว่าอาการคงที่ มีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนการให้อาหารเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวก็มีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยร่างกายของผู้ว่าฯ สามารถรับอาหารทางสายยาง เข้าไปผ่านทางลำไส้ แทนหลอดเลือดทำให้กลไกการทำงานของระบบทางเดินอาหารกลับมาทำงานได้ดี
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามอยากวิงวอนขอสื่อมวลชนอย่าไปรบกวนครอบครัวผู้ว่าฯ หลังวานนี้มีสื่อบางส่วนโทรศัพท์สายตรงหาภรรยาผู้ว่าฯและไปถามว่าผู้ว่าเสียชีวิตหรือไม่ สร้างความตกใจแก่ครอบครัว ตนยินดีให้ข้อมูล แต่อย่าได้รบกวนครอบครัว การเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์วันก่อน (24 ม.ค.) ทำให้เห็นสภาพปอดมีการอักเสบเป็นย่อมๆ ฉะนั้นต้องรอเวลาให้ยาทำงาน หากดีขึ้นสามารถดูได้จากระดับออกซิเจนในเลือด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :