ทั้งนี้ เซนเลสกีได้ร้องขอให้รัฐสภาสหรัฐฯ มอบความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ยูเครน เพื่อใช้ในการตอบโต้การรุกรานของรัสเซีย ซึ่งทำสงครามอันโหดร้ายต่อประเทศเพื่อนบ้านของตัวเองตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเซเลนสกีระบุว่า “เงินของท่านไม่ใช่การทำการกุศล มันคือการลงทุนด้านความมั่นคงและประชาธิปไตยระดับโลก ซึ่งเรายึดถือกันไปในทางเดียวกัน” ทั้งนี้ หัวหน้าพรรครีพับลิกัน ซึ่งชนะการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ชื่นชมสุนทรพจน์ของเซเลนสกี แต่ระบุว่าตัวเองจะไม่ตี “เช็คเปล่า” โดยเงินที่จะมอบแก่ยูเครนต้องมอบบนฐานที่อธิบายได้ว่าให้ไปเพื่ออะไร

นอกจากประเด็นการร้องขอความช่วยเหลือแล้ว ประธานาธิบดียูเครนยังได้ร้องขอให้สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ เสริมความแข็งกร้าวในการคว่ำบาตรรัสเซีย “จงให้ผู้ก่อการร้ายได้รับผลจากการกระทำจากการรุกราน” เซเลนสกียังได้ย้ำเตือนถึงการสนับสนุนของไบเดนต่อแผนสันติภาพ 10 ประการ ซึ่งสมาชิกรัฐสภาแต่ละคนสามารถให้การสนับสนุนได้

เซเลนสกียังได้พูดถึงสถานการณ์ของสงครามต่อสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า รัสเซีย “ใช้ทุกสิ่งทุกอย่าง” เพื่อโจมตีต่อหลายเมืองของยูเครน อาทิ บักห์มุต แต่ยูเครนยังคง “รักษาแนวรบและจะไม่มีวันยอมแพ้” คำพูดดังกล่าวของประธานาธิบดียูเครนส่งผลให้สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ส่งเสียงปรบมือชื่นชมอย่างถาโถม 

“เมื่อปีที่แล้ว มีผู้คน 70,000 คนอาศัยอยู่ในบักห์มุต ตอนนี้มีพลเรือนแค่ไม่กี่คนที่อาศัยอยู่ในนั้น ทุกนิ้วของผืนดินชุ่มไปด้วยเลือด… ดอนบาสเปลี่ยนมือผู้ถือครองไปหลายครั้งจากการต่อสู้อันดุเดือด หรือแม้แต่การต่อสู้ด้วยมือเปล่า แต่ชาวยูเครนในดอนบาสยังคงยืนเด่นท้าทาย” เซเลนสกีระบุ

เซเลนสกียังระบุกับสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ อีกว่า ชาวยูเครนจะเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสในปีนี้ แม้จะเกิดความเสียหายย่อยยับจากสงคราม พร้อมกันนี้ประธานาธิบดียูเครนย้ำเตือนกับรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า “แม้ว่าจะไม่มีไฟฟ้า แสงแสว่งแห่งความหวังศรัทธาในตัวเราจะไม่มีวันดับลง” 

เซเลนสกีจบการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ของตัวเองบนรัฐสภาสหรัฐฯ ว่า ยูเครนจะประสบกับ “ชัยชนะอันเด็ดขาด” ก่อนย้ำคำพูดเปิดสุนทรพจน์ของตัวเองอีกครั้งว่า “ยูเครนยังมีชีวิตและเดินหน้าต่อไป” พร้อมกันกับเสียงปรบมืออย่างถาโถม นอกจากนี้ เซเลนสกียังได้ส่งมอบธงชาติยูเครนที่มีลายเซ็นของทหารในพื้นที่บักห์มุตแก่ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ พร้อมกันนี้ เพโลซีได้ส่งมอบธงชาติสหรัฐฯ เป็นการแลกเปลี่ยน

ก่อนการกล่าวสุนทรพจน์บนรัฐสภาสหรัฐฯ เซเลนสกีได้เดินทางเยือนทำเนียบขาวเพื่อเข้าหารือกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยไบเดนได้ย้ำว่า สหรัฐฯ จะยืนเคียงข้างยูเครน “นานเท่าที่จะนานได้” โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันการมอบชุดความช่วยเหลือมูลค่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 6.9 หมื่นล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือยูเครน และให้คำสัญญาว่าตัวเองจะมอบเงินกว่าอีก 4.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.56 ล้านล้านบาท)

ทั้งนี้ การเดินทางเยือนสหรัฐฯ ของเซเลนสกี นับเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรก ตั้งแต่รัสเซียเริ่มการรุกรานประเทศของตัวเองเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ไบเดนได้กล่าวยืนยันว่าสหรัฐฯ จะยืนเคียงข้างยูเครน “นานเท่าที่จะนานได้” ในสงครามต่อต้านการรุกรานรัสเซีย