อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย พาลูกพรรคเข้ากราบลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขอไปทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มตัว ว่า พรรคเศรษฐกิจไทยจะดำเนินการทางการเมืองอย่างไรถือเป็นสิทธิ พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านยังคงเดินหน้าอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอย่างเข้มข้น ไม่ใช่การอภิปรายตามเทศกาลหรืออภิปรายเพื่อให้พรรคเพื่อไทยได้พลิกกลับมาเป็นรัฐบาลแทน แต่เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจสะท้อนความผิดพลาดล้มเหลวของรัฐบาล เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน
ถ้ารัฐบาลมีความสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาวิกฤตราคาพลังงาน แก้ปัญหาค่าครองชีพพุ่งสูง แก้ปัญหาโควิดได้แค่นี้ ไม่มีประชาชนที่ไหนจะไปเชื่อมั่นรัฐบาล 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ประชาชนได้พิพากษาแล้วว่าไม่ผ่านการทดลองงาน ถ้าเป็นบริษัทห้างร้านคงถูกเลิกจ้างไปนานแล้ว ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลอย่าโหวตเพราะกล้วย ประชาชนไม่เอาแล้วพวกบริหารล้มเหลวแต่กอดอำนาจแน่นไม่ยอมปล่อย
ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลยังคงเอ็นจอยกับการเป็นนั่งร้านให้รัฐบาลประยุทธ์สืบทอดอำนาจต่อไป วันเลือกตั้งมีโอกาสสูงที่จะไม่เอ็นจอยกับผลคะแนนเลือกตั้งรัฐบาล แก้ปัญหาวิกฤตเหมือนประเทศไม่มีวิกฤต หยุดเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์เต็มแม็กซ์ ในขณะที่ความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชนรอไม่ได้ ใช้ระบบรัฐราชการนำ ดันหลังหน่วยงานความมั่นคงมาแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจแบบผิดฝาผิดตัว
พอจวนตัวจะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ออกมาผุดเรื่อง 3 แกน แบบแกนๆ ที่ถือว่าช้าและน้อยมากแก้ปัญหาไม่ได้ประชาชนจับตาดูการลงมติไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคไหนจะกอดรัฐบาลประยุทธ์จนนาทีสุดท้ายต้องคิดให้ดี การกระทำมีน้ำหนักมากกว่าคำพูด ของจริงดูกันที่การโหวตไม่ใช่การเคลื่อนไหวต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองรายวัน
“พรรคเศรษฐกิจไทยต้องโหวตคว่ำรัฐบาลประยุทธ์ ประชาชนถึงจะยอมรับถึงความตั้งใจจริงว่ายืนอยู่ข้างประชาชน ไม่ยอมเป็นนั่งร้านให้รัฐบาลประยุทธ์สืบทอดอำนาจอีกต่อไป ไม่ใช่เคลื่อนไหวเพื่อหวังสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองเพราะรู้ว่ารัฐบาลไปต่อไม่ได้” อนุสรณ์ กล่าว