ไม่พบผลการค้นหา
รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เผยการสอบ GAT/PAT ต้องยึดกำหนดเดิม เพราะวันเลือกตั้งยังไม่ได้ถูกกำหนด แต่หากชัดเจนเเล้วสามารถเลื่อนวันสอบให้เหมาะสมได้

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงการทดสอบความถนัดทั่วไป และการทดสอบความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ หรือ GAT/PAT ว่า ขณะนี้ต้องยึดวันที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดมาคือวันที่ 16-19 ก.พ. 2562 เป็นหลัก เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ยังไม่ได้กำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน หากมีความชัดเจนแล้ว ก็สามารถเลื่อนการสอบออกไปอีกได้ ซึ่งไม่เสียประโยชน์อะไร และสิ่งที่ได้เสนอ กกต.เพิ่มเติมไปคือ การพิจารณาวันสอบคัดเลือกบุคคลเข้าสถานศึกษา หรือ ทีแคส ในวันที่ 16-17 มี.ค. 2562 ซึ่งจะมีคนสอบเป็นแสนคน ให้ กกต.นำไปพิจารณาประกอบการกำหนดวันเลือกตั้งด้วย 

นายวิษณุ เปิดเผยด้วยว่า วันพรุ่งนี้ (10 ม.ค. ) ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะประชุมคณะกรรมการเตรียมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกซึ่งจะทราบหมายกำหนดการทั้งช่วงต้นตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป จนถึงช่วงปลาย คือหลังงานพระบรมราชาภิเษก ที่จะต้องมีงานพระราชพิธีต่างๆ อีก ให้ กกต.นำไปประกอบการ กำหนดวันเลือกตั้ง และเห็นว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นเงื่อนไขสำคัญหนึ่งที่ กกต. ต้องนำไปประกอบการพิจารณากำหนดวันเลือกตั้ง ส่วนการสอบ GAT/PAT และทีแคสนั้น ก็พิจารณาจากวันเลือกตั้งอีกทอดหนึ่ง

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย เรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ไม่ควรทำให้เรื่องของวันเลือกตั้งเกิดความคลุมเครือ ควรระบุให้มีความชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งในวันใด เพราะถ้าหากไม่มีความชัดเจนแล้ว จะเกิดผลกระทบกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. รวมถึงวันสอบ GAT-PAT ของเด็กนักเรียน

อย่างไรก็ตาม หากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องของวันเลือกตั้ง อย่างน้อย คสช.ควรจะมีความชัดเจนเรื่องของวันสอบ GAT-PAT เพื่อคืนวันสอบให้กับเด็กนักเรียน เพราะเด็กจะได้เตรียมตัวได้ถูกต้อง ไม่ควรปล่อยให้เกิดความคลุมเคลือ และความไม่ชัดเจนในทุกเรื่อง

คุณหญิงสุดารัตน์ ยังระบุว่า ขณะนี้ประชาชนคนไทยมองเห็นว่าพรรคเพื่อไทยถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมในหลายกรณี โดยเฉพาะการใช้อำนาจมาจัดการทางการเมืองตั้งแต่อดีต จนมาถึงการดำเนินคดีที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยสามารถรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ 

ทั้งนี้ กระบวนการยุติธรรมของไทยต้องมีความน่าเชื่อถือ เพราะหากไม่น่าเชื่อถือจะกระทบต่อการลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งกระบวนการยุติธรรมในยุคใหม่นี้ต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริง ความรู้สึก และการมองมาจากสังคมโลกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง