วันที่ 8 ธ.ค. สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แสดงความคิดเห็นผ่านรายการสามารถ 5 นาที ทางเฟซบุ๊ก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss ถึงกรณีว่าใครจะชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ก่อนอื่นการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เกิดขึ้นจากที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค เนื่องจากพรรคได้ สส.เพียงแค่ 25 เสียง

โดยจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา จุรินทร์ก็เลยประกาศลาออก จากนั้นได้มีการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ปรากฏว่าเลือก 2 ครั้งหล่มทั้ง 2 ครั้งเพราะก่อนหน้านี้มีคนในพรรคประชาธิปัตย์เองก็พยายามจะฟื้นคุณอภิสิทธิ์ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค ในกลุ่มของจุรินทร์ ชวน และบัญญัติ ก็มีความคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์นั้นควรจะเป็นฝ่ายค้าน 

สามารถ กล่าวต่อว่า ถ้าจำกันได้มีการโต้เถียงกันในพรรคประชาธิปัตย์ โดยเป็นสงครามตัวแทนมีคนออกมาว่า ท่านชวน ขณะที่ท่านชวนออกมาว่าคนนู้นคนนี้ จะเห็นว่าปัญหามันเกิดขึ้นเพราะ 2 ขั้ว ขั้วของคุณเฉลิมชัยเองมี สส.ในมือไม่ต่ำกว่า 20 คน คุณเฉลิมชัย ศรีอ่อนนั้น เป็นอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็ได้ดูแลก๊วนในบ้านดาวล้อมเดือนเข้าวินมาเกือบ 20 คน ซึ่งวันนี้จึงเกิดการประลองวุธแล้วว่าองค์ประชุมไม่คบ แต่ครั้งที่ 3 ตนคิดว่าต้องได้

จนล่าสุดปรากฏว่า วทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศลงชิงเป็นหัวหน้าพรรค พร้อมประกาศจะเป็นฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง ซึ่งครั้งนี้มาดามเดียร์ไม่ได้เป็น สส.และ สส.ของพรรค 20 คนใน 25 คนอยู่ซุ้มคุณเฉลิมชัย เพราะอาจจะมีแนวความคิดว่า เขาอยากจะเป็นรัฐบาล อยากแก้ปัญหาให้กับประชาชน 

“ข้ามมาฝั่งคุณเฉลิมชัยที่ประกาศวางมือไปแล้ว แต่ ณเวลานี้ มันวางมือไม่ได้ เพราะว่าหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้นสำคัญมาก ถ้าวันนี้ได้มาดามเดียร์เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผมมั่นใจว่า สส.ไม่ต่ำกว่า 10 คนจะย้ายพรรค แปลว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมี สส. น้อยกว่านี้ และผมมั่นใจว่าคุณเฉลิมชัยคงไม่อยากเห็นภาพที่ สส.จะต้องแตกฉานซ่านเซ็นไปอยู่พรรคนู้น พรรคนี้ เพราะคนพวกนี้เหมือนลูกหลานเขา คุณเฉลิมชัยให้โอกาสทางการเมืองปั้นมาเป็น สส.” สามารถ กล่าว

สามารถ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนมั่นใจเลยว่าสามก๊กจะเกิดขึ้นหลังจากที่ 9 ธันวาคม ตนเคยพูดก่อนหน้า ที่ท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เป็นองคมนตรีนั้น การเมืองจะเดินเข้าสู่สามก๊ก ก๊กแรกคือก๊กเพื่อไทยที่มี 141 เสียง ก๊กที่ 2 คือก๊กของพรรคพลังประชารัฐ,รวมไทยสร้างชาติ,ประชาธิปัตย์,ภูมิใจไทย,ชาติไทยพัฒนา ก๊กนี้มีทั้งหมด 183 เสียง มาจากพรรคพลังประชารัฐ 40 รวมไทยสร้างชาติ 37 ภูมิใจไทย 71 ชาติไทยพัฒนา 10 เสียงประชาธิปัตย์ 25 เสียงรวมกันแล้วได้ 183 เสียง ก๊กนี้มากกว่าทั้งเพื่อไทยที่มี 141 เสียง และมากกว่าก้าวไกล 151 เสียง แต่เนื่องจากนายพิธาถูกหยุดปฎิบัติหน้าที่ และสส.หายไป 2 คนเหลือ 148 และถ้าคุณไอซ์ รัชนก ถูกหยุดอีก เหลือ 147 ก้าวไกลมี 147 ฉะนั้นอย่างน้อยกว่าก๊กที่ 2 รวมกัน 

“ฉะนั้นที่ผมพูดว่า ถ้ายุบพรรคก้าวไกล สส.ก้าวไกล 70 คนเท่านั้น จาก 147 เดินเข้าไปอยู่พรรคไหนก็ได้แล้วก็มาจับมือรัฐบาล 183 + 70 ได้ 253 เปลี่ยนรัฐบาลได้แล้ว ซึ่งผมมั่นใจว่ามันไม่ใช่แค่ 70 มันมากกว่านั้นอยู่แล้ว เพราะถ้าก้าวไกลถูกยุบ คุณพิธาถูกตัดสิทธิ์ ก็ไม่มีกระแสแล้ว ณ เวลานั้นมนต์ขลังของคุณธนากรหายไปแล้ว จากการเลือกตั้งซ่อม อบต.มันสะท้อนให้เห็นแล้วเขาวิ่งกลับไปเลือกเพื่อไทย ดังนั้นสิ่งที่ผมพูดว่า คนที่เป็น สส.อยู่เวลานี้ รัฐบาลอยู่อีก 3 ปีครึ่ง พูดง่ายๆ สภาอยู่ 3 ปีครึ่ง เพื่อไทยอยู่ 3 ปีครึ่ง สภาจะไปจับมือกับใครเป็นนายกก็ได้ จะจับมือใครตั้งรัฐบาลก็ได้”

สามารถ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่ตนจะพูดให้เห็นว่าในวันที่ 9 ธันวาคม ผมมั่นใจคุณเฉลิมชัยจะเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อจะรักษาพรรคประชาธิปัตย์ไว้ ไม่อยากเห็น สส. ลูกหลานพี่น้องของบ้านดาวล้อมเดือนย้ายพรรคการเมือง ซึ่ง สส.25 เสียงที่มีอยู่ในมือ

อย่างน้อยต้องเป็นรัฐมนตรีว่าการ 1 ตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วย 1 ตำแหน่ง แต่ตนมั่นใจว่าคุณเฉลิมชัยจะไม่ไปอยู่กับนายเศรษฐา ทวีสิน ผมไม่เชื่อว่า ประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมจับมือกับพรรคเพื่อไทย ดังนั้นคุณเฉลิมชัยจะเข้มแข็งรอจังหวะอย่างเดียว ขอให้รอดูครับว่าวันที่ 9 ธ.ค.นี้ผมจะฟันธงแม่นหรือไม่แม่น ตรงหรือไม่ตรง