เมื่อเวลา 19.12 น. วันที่ 26 ก.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทยและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกำหนดการที่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทย วันที่ 10 ส.ค.นี้ โดยยอมรับว่าตื่นเต้นตอนโพสต์เฟซบุ๊กถึงกำหนดการที่ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและบิดา จะกลับมา และตั้งใจไว้แล้วจะเขียนว่าอะไร อีกทั้งวันนี้ก็มาถึงแล้วที่วันนี้จะโพสต์บอก ทำให้รู้สึกตื่นเต้น ส่วนทำไมถึงกลับประเทศไทยในวันที่ 10 ส.ค.นี้ จริงๆคุณพ่ออยากกลับก่อนหน้านี้ แต่เป็นวันหยุด ก็เลยต้องหาวันที่เหมาะสม

แพทองธาร ระบุว่า เมื่อโพสต์ไปแล้วก็ต้องขอบคุณกระแสตอบรับถึง บิดาของตนเอง ส่วนตัวคิดว่า ดร.ทักษิณ แม้จะอยู่ไกลแต่ถ้าได้เห็นการตอบรับเช่นนี้คงจะดีใจมากๆ ตนรู้สึกดีใจแทนบิดา

"คุณพ่อเป็นคนประเมินสถานการณ์ทางการเมือง ท่านคงอาจจะรอไม่ไหวแล้ว อยากกลับตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่เสร็จสิ้นอะไรอยากจะกลับมาแล้ว คงจะนิ่งแล้ว" แพทองธาร กล่าว

ส่วนที่เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยนั้น แพทองธารระบุว่า แน่นอนยังเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยแน่นอน เพราะไม่ทราบจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในกระบวนการ โดยบิดาเป็นคนจัดการเอง ตนมีหน้าที่บอกประชาชนและสื่อมวลชนผ่านเฟซบุ๊กและไอจี คิดว่ากำหนดการไม่เลื่อน ส่วนที่เลือกลงสนามบินดอนเมือง เพราะ บิดาจะมาด้วยเครื่องบินส่วนตัว และตนไม่แน่ใจเรื่องกระบวนการทางการจะที่จะมารับตัวของบิดา

เมื่อถามว่า กำหนดที่ ดร.ทักษิณจะกลับไทยตรงกับช่วงที่มีการลงมติเลือกนายกฯและศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยในเรื่องการลงมตินายกฯ ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ แพทองธาร ระบุว่าไม่แน่ใจ คุณพ่ออาจคาดเดาว่าทุกอย่างจะจบลง อีกทั้งตนได้โพสต์ข้อความไประบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2565 ท่านยืนยันจะกลับไทย ทั้งนี้เป็นเรื่องของครอบครัวไม่ใช่เรื่องการเมือง เพราะบิดาได้ออกจากประเทศไทยไป 17 ปีแล้ว ซึ่งตนจะเดินทางไปรับบิดาที่ประเทศไทย แต่ต้องดูก่อนว่าจะเดินทางไปรับถึงต่างประเทศหรือไม่

เมื่อถามว่า ดร.ทักษิณพร้อมเดินทางกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้วยการติดคุกใช่หรอไม่ แพทองธาร กล่าวว่า "ใช่ค่ะ"

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าว ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้ามีดีลลับที่ฮ่องกงเพื่อยอมถอยมาตรา 112 เพื่อจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดย แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะตนอยู่ในประเทศไทยและเจอสื่อมวลชนที่นี่