กองทัพเมียนมา หรือ ทัตมาดอว์ (Tatmadaw) ออกแถลงการณ์ฉบับแรกหลังยึดอำนาจจากพรรคเอ็นแอลดีของอองซาน ซูจี ซึ่งชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย. 2563 มีเนื้อหาให้คำมั่นจัดการเลือกตั้งส่งมอบอำนาจให้กับพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งทันทีที่ประสถานการณ์การฉุกเฉินซึ่งมีอายุ 1 ปี สิ้นสุด
แถลงการณ์ระบุว่า "เราจะดำเนินการตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ด้วยความสมดุลและเป็นธรรม อีกทั้งให้คำมั่นถ่ายโอนอำนาจหลังจัดการเลือกตั้งทั่วไปอย่างเป็นธรรมและเสรี หลังการพ้นระยะเวลาประกาศภาวะฉุกเฉิน"
นอกจากนี้แถลงการณ์ยังระบุว่า กองทัพจะจัดให้มีคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ พร้อมเดินหน้าสอบสวนรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามที่กองทัพเรียกร้องในก่อนหน้านี้ รวมถึงกองทัพจะคงเดินหน้ากระบวนการหยุดยิงและสร้างสันติภาพในชนกลุ่มน้อยทั่วประเทศ อีกทั้งให้คำมั่นเดินหน้าต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด
หลังเกิดเหตุการณ์กองทัพเมียนมาประกาศสถานฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 1 ปี ยึดอำนาจจากพรรคเอ็นแอลดีที่ชนะเลือกตั้ง พร้อมควบคุมตัวสมาชิกคนสำคัญของพรรคอาทิ อองซานซูจี และอู่วินมิ่นท์ ส่งผลให้ชาวเมียนมาที่พำนักในต่างแดนหลายชายออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการยึดอำนาจ
ที่กรุงโตเกียว กลุ่มชาวเมียนมาในญีปุ่นรวมตัวที่ด้านหน้ามหาวิทยาลัยสหประชาชาติในกรุงโตเกียว (United Nations university) เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านการรัฐประหารยึดอำนาจจากพรรคเอ็นแอลดีของนางซูจี
หนึ่งในชาวเมียนมาในญี่ปุ่นเผยว่า "เราทุกคนเสียใจมาก หลังใช้ชีวิตภายใ้ต้ระบบทหารมานานกว่า 50 ปี ในที่สุดเราคิดว่าจะได้ประชาธิปไตยแล้ว แต่รัฐประหารก็เกิดขึ้น"
เช่นเดียวกับไทย ที่ผู้ชุมนุมทั้งชาวเมียนมาและชาวไทย ซึ่งส่วนใหญ่สวมเสื้อสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์ของพรรคเอ็นแอลดี และถือธงชาติประจำพรรครวมถึงภาพของนางซูจี ออกมาเคลื่อนไหวด้านหน้าสถานเอกอัครราชทุตเมียนมา ประจำประเทศไทย บริเวณถนนสาทร ซึ่งการรวมตัวครั้งนี้มีขึ้นตามการเคลื่อนไหวของกลุ่ม "วี วอลันเทียร์" ที่โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเชิญชวนให้ผู้คนมารวมตัวหน้าสถานทูตเมียนมา โดยชี้ว่า ในฐานะพลเมืองชาติอาเซียน ทางกลุ่มขอประณามและไม่รับรองการรัฐประหาร รวมถึงรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร
เฟซบุ๊กของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) เผยแพร่แถลงการณ์ที่ลงนามโดย อองซาน ซูจี เรียกร้องให้ชาวเมียนมาไม่ยอมรับการรัฐประหารกองกองทัพและออกมาต่อต้านการยึดอำนาจดังกล่าว
ใจความตอนหนึ่งของแถลงการระบุว่า "การกระทำของทหารเป็นการผลักให้ประเทศกลับมาอยู่ภายใต้ระบบเผด็จการอีกครั้ง นางซูจีขอเรียกร้องให้ประชาชนไม่ยอมรับสิ่งนี้ และออกมาตอบสนองการประท้วงเพื่อต่อต้านการรัฐประหารที่นำโดยกองทัพ"
วิ่น เถี่ยน ประธานพรรคเอ็นแอลดีซึ่งเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าว ยืนยันกับรอยเตอร์ว่า แถลงการณ์นี้ถูกเขียนขึ้นโดยนางซูจีจริง เป็นการเขียนขึ้นก่อนเกิดรัฐประหารในวันนี้
อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวจากชาวเมียนมาในย่างกุ้งที่ยังคงไม่เชื่อแถลงการณ์ดังกล่าวว่าอาจเป็นกระแสการปลุกระดมของฝั่งกองทัพที่หวังสร้างสถานการณ์ในประเทศ