วันที่ 1 มิ.ย. 2565 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายประเด็นว่าร่างงบฉบับปี 2566 นี้จะประสบความสำเร็จ ซึ่งฟังอย่างไรก็เชื่อไม่ได้โกหกทั้งเพด้วยเหตุผล ตามที่ ครม. ชี้แจงว่า ร่างงบฯ ปีนี้ทำเหมือนปีที่แล้ว แต่ร่างงบฯ ฉบับนี้จะต้องใช้ตั้งแต่เดือน ต.ค.ไปจนถึงปีหน้า เศรษฐกิจกำลังจะกระเตื้องขึ้นหรือไม่ก็ไม่ทราบ เปรียบเสมือนคนป่วยที่เพิ่งฟื้นแต่ไม่ได้จัดทำงบประมาณสำหรับการทำกายภาพบำบัดให้กับเศรษฐกิจของประเทศเลย

จิรายุ เรียกร่างงบฯ ฉบับนี้ว่า 'ตู่แปด มืดมนอนธกาล' ถึงแม้จะจัดตั้งรัฐบาลมาจะครบ 8 ปีแล้ว ก็ยังจัดทำงบประมาณอย่างมืดมนอนธกาล หาความเจริญไม่ได้ รัฐมนตรีแต่ละท่านเมื่อขึ้นมาชี้แจงก็ปกป้องแต่กระทรวงตัวเองไม่ได้ช่วยปกป้องนายกรัฐมนตรีเลย

การทำร่างงบฯ แบบนี้ หากปล่อยไปจนถึงปีหน้า นอกจากจะเป็นการเผาจริงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังจะเป็นเทศกาลลอยอังคารทางด้านเศรษฐกิจ เพราะถ้าจะทำงบเหมือนปีที่แล้วตามที่รัฐมนตรียืนยันชัด ไม่มีอะไรบอกได้เลยว่า จะกระตุ้นเศรษฐกิจกลับขึ้นมาได้ ฝีมือของท่านนายกรัฐมนตรี และ ครม. ทำได้เพียงแจกเงินอย่างเดียว แต่ไม่เคยบอกต่อสภาว่า จะมีวิธีหารายได้อย่างไร

นอกจากนี้ ในช่วงใกล้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังจะเป็นยุควานรครองเมือง ลิงกินกล้วย ปีที่แล้วตนเสียดายที่ไม่ได้อธิบายว่า มีการแจกเงินกันอยู่ที่ห้อง 2 ส. และ 1 อ. ในรัฐสภา ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ เพราะมีคน SMS มาบอกตน

"การจัดทำงบประมาณปี 2566 นี้ เขาเรียกว่าจัดทำงบประมาณแบบกินน้ำไม่เผื่อแล้ง เพราะไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไรปีหน้า ฉันอาจจะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชน 70 ล้านคนตาย ก็เรื่องของแก ไม่เกี่ยวกับพวกฉัน ท่านไม่ได้จัดทำงบประมาณอะไรที่จะมองเห็นถึงอนาคตเลย ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม สตาร์ทอัพสารพัดธุรกิจ ตายกันเรียบ เพราะไม่รู้เลยว่าอนาคต รัฐบาลจะทำอย่างไร เดี๋ยวเดือนหน้าแจกเงินอีกแล้ว"

จิรายุ ชี้ว่า ในร่างงบประมาณ ปี 2566 นี้ มีการแบ่งเป็นชุดยุทธศาสตร์ด้านต่างๆ ทั้งด้านความมั่นคง การแข่งขัน สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ก็ล้วนไม่ต่างจากปีที่แล้ว ราวกับลอกตัวเลขมาวาง มีเพิ่มนิดหน่อย เดี๋ยวสำนักงบประมาณจะจับได้ แต่ไม่ตอบโจทย์ต่อสภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้เลย

จิรายุ กล่าว่า วอยซ์ทีวี ได้นำเสนอเงินกู้ แค่ 3 ปี ที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่เป็นรัฐบาล แต่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยอยู่ช่วง 6 ปีแรกก็พบว่ากู้เก่ง

จิรายุ กล่าวว่าตั้งแต่ปี 2558-2563 รัฐบาลนี้กู้เงินมาแล้ว สิริรวม 3.39 ล้านล้านบาท แม้ในปี 2564-2566 ก็ยังคงกู้เงินในจำนวนใกล้เคียงกัน จนได้รับฉายาว่าพระบิดานักกู้แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นนายกรัฐมนตรีที่กู้เก่ง ตนอยากให้นายกรัฐมนตรีช่วยตอบหน่อยว่าจะหาเงินเข้าประเทศได้อย่างไร หลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายประเทศต่างๆ เริ่มกลับมาคึกคักแล้ว ขณะที่ประเทศไทยมีแต่รอมาตรการแจกเงิน

จิรายุ กล่าวว่า การทำงบเช่นนี้อันตรายเนื่องจากไม่มีดัชนีชี้วัด จากการที่ตนได้ฟังในกรรมาธิการงบประมาณเมื่อปีที่แล้วได้พบว่ามีการยัดไส้เยอะเช่น หลายกระทรวงตั้งงบประมาณมาแต่เอาไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เพราะเบิกหลวงไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นการจัดงบเตรียมเลือกตั้ง เนื่องจากไม่รู้อนาคตของรัฐบาลว่าจะเป็นอย่างไร

"งบประมาณรายจ่ายที่มาขอกับรัฐสภา คือเงินของพี่น้องประชาชนทั้งสิ้น ท่านช่วยกรุณาใช้เวลาพรุ่งนี้อีก 1 วัน บอกหน่อยเถิดว่ากระทรวงนั้นจะหาเงินอย่างไร" จิรายุ กล่าว